นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 เป็นกฎหมายส่งเสริมให้นายจ้างและสถานประกอบกิจการได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับพนักงานหรือลูกจ้างของตนเอง โดยมีมาตรการจูงใจในการยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) ของพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณแก่สถานประกอบกิจการที่ประสบความสำเร็จในด้านการพัฒนาพนักงานของตนเอง ส่งเสริมให้นายจ้างตระหนักถึงการมีพนักงานที่มีฝีมือจะมีส่วนสำคัญในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างลงได้ และพนักงานที่ได้รับการยกระดับมาตรฐานฝีมือสามารถเพิ่มรายได้ ให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น กพร. จึงได้ดำเนินการจัดทำ "โครงการสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานประจำ พ.ศ.2561" ขึ้น ในการคัดเลือกสถานประกอบกิจการที่มีคุณสมบัติที่พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 กำหนด
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่าสำหรับเกณฑ์คุณสมบัติในการพิจารณาประกอบด้วย 5 ด้าน ดังนี้ ด้านที่หนึ่ง สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ดำเนินการฝึกอบรมให้กับพนักงานของตนเองครบถ้วนตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 เป็นระยะเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี (พ.ศ. 2558 – 2560) โดยพิจารณาจากหลักสูตรการฝึกเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพของพนักงาน สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงาน ด้านที่ 2 สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างต่ำกว่า 100 คน และมีการพัฒนาฝีมือให้กับพนักงานของตนเองตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปี (พ.ศ. 2559-2560) ซึ่งสถานประกอบกิจการที่มีพนักงานไม่ถึง 100 คนนั้น ไม่อยู่ในข่ายบังคับตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาพนักงาน ด้านที่ 3 สถานประกอบกิจการที่รับนักเรียน นิสิต นักศึกษา จากสถานศึกษา หรือบุคคลที่ทางราชการส่งมาฝึก เข้ารับการฝึกเตรียมเข้าทำงานตามหลักสูตรที่ขอรับรอง โดยจ่ายเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการ ด้านที่ 4 สถานประกอบกิจการที่จัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานของตนเอง ไม่น้อยกว่า 1 สาขาในรอบปีที่ผ่านมา (2560) และต้องนำมาตรฐานฯ ไปจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรม พร้อมนำหลักสูตรไปใช้ในการฝึกอบรมแก่พนักงานของตนเองด้วย หลักเกณฑ์อื่นๆ ในการประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม เช่น เป็นสถานประกอบกิจการต้นแบบในการพัฒนาฝีมือแรงงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะในระดับจังหวัดหรือระดับประเทศ ขับเคลื่อนพัฒนากำลังคนในการรองรับนโยบาย Thailand 4.0 รวมถึงได้รับรางวัลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในระดับประเทศหรือนานาชาติ เป็นต้น
"นายจ้างและสถานประกอบกิจการ ที่สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2561 ณ หน่วยงานในสังกัดกพร. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ทั่วประเทศ สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ www.dsd.go.th/sdpaa สนใจสามารถสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสื่อสารองค์กร กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 0 2245 4035 หรือสายด่วน 1506 กด 4 คาดว่าจะมีสถานประกอบกิจการผ่านเกณฑ์คัดเลือกไม่น้อยกว่า 60 แห่ง" อธิบดีกพร.กล่าว