หลี่ จินหยวน ประธานเทียนส์ กรุ๊ป เผย “โลกกำลังจับตามองจีน”

อังคาร ๑๗ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๗:๑๓
โป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย ประจำปี 2561 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานประชุมเศรษฐกิจนานาชาติที่สำคัญที่สุดของจีน ได้สิ้นสุดลงแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยแนวคิด "เอเชียที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์เพื่อโลกที่เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น" ซึ่งหลี่ จินหยวน ประธานเทียนส์ กรุ๊ป (Tiens Group) ได้กล่าวในโอกาสที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานนี้ว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังจับตามองจีน และจีนก็กำลังจับตามองโลกเช่นกัน โดยโครงการ Belt and Road ดึงดูดให้ทุกภาคอุตสาหกรรมหันมาสนใจจีน อันนำมาซึ่งโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับบริษัทของเขา

หลี่ จินหยวน ได้ยกตัวอย่างมณฑลไห่หนาน โดยกล่าวว่า "หากไห่หนานประสบความสำเร็จตามแผนการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ไห่หนานจะเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เทียนส์ กรุ๊ป เองได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับทุกโอกาสที่เข้ามา และจะใช้ประโยชน์จากกระแสนิยมนี้เพื่อเร่งผลักดันการเตรียมความพร้อมของบริษัท" โดยทางบริษัทได้ยืนอยู่ในแถวหน้าของยุคโลกาภิวัตน์มาโดยตลอด และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอดระยะเวลาหลายปีจะส่งผลดีต่อการพัฒนาบริษัททั่วโลกในระยะยาว ทั้งนี้ "เพื่อเป็นการตอบสนองต่อโครงการนี้ เราขอสนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ คว้าโอกาสนี้ในการเข้าถึงตลาดโลก เพราะนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับโลกอย่างมั่นใจ"

หลี่ จินหยวน ชี้ว่า "เทียนส์เป็นบริษัทนานาชาติ และโครงการ Belt and Road ก็เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ช่วยเร่งขับเคลื่อนเทียนส์ไปสู่ระดับโลก"

หลี่ จินหยวน ได้เข้าร่วมงานโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย ประจำปี 2561 ในฐานะผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่น ซึ่งเขาได้เข้าร่วมการประชุมย่อยในหลายหัวข้อ ซึ่งล้วนแต่เป็นการประชุมสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น โดยเมื่อวันที่ 9 เมษายน หลี่ได้เข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจสำหรับเกาะบนเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21, การประชุมโต๊ะกลมผู้ว่าการและนายกเทศมนตรีอาเซียน-จีน และการประชุมว่าด้วยการให้คำนิยามใหม่ของผู้ประกอบการและความเป็นผู้ประกอบการ ร่วมกับบรรดาผู้นำธุรกิจระดับโลก นอกจากนี้ในวันที่ 10 เมษายน หลี่ยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมซีอีโอญี่ปุ่น-จีน ในฐานะหนึ่งในสิบตัวแทนบริษัทจีนที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งหลี่ได้แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการก้าวสู่ระดับโลก และบอกเล่าถึงประสบการณ์ความสำเร็จของเทียนส์ จากอานิสงส์ของโครงการ Belt and Road

ผาน ไห่ผิง ไอคอนแห่งวงการสื่อและรองผู้จัดการทั่วไปของสำนักผู้จัดการทั่วไปแห่งสำนักข่าวซินหัว กล่าวในระหว่างพิธีเปิดงานโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย ประจำปี 2561 ว่า โครงการ Belt and Road มีต้นกำเนิดมาจากจีน แต่โอกาสและความสำเร็จต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้นั้นเป็นของทั้งโลก

ผาน ไห่ผิง เชื่อว่า เทียนส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นแบรนด์จีนที่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตลาดโลกนั้น ถือเป็นตัวแทนของบริษัทจีนที่ได้ "ก้าวไกลสู่โลก" ทั้งนี้ เทียนส์ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในปี 2538 และเข้าสู่ตลาดนานาชาติในปี 2540 โดยหลังจากการเปิดตัวโครงการ Belt and Road ทางบริษัทได้ตอบสนองต่อโครงการนี้ทันที และได้เปิดตลาดใหม่ใน 37 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และฟิลิปปินส์ ปัจจุบันเทียส์ได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ กว่า 190 ประเทศทั่วโลก ได้ก่อตั้งสาขาย่อยในประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ 110 แห่ง อีกทั้งยังได้จัดตั้งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลก จึงกล่าวได้ว่า เทียนส์นั้นได้สร้างมาตรฐานให้กับบริษัทต่าง ๆ ของจีนที่ต้องการประสบความสำเร็จในการ "ก้าวไกลสู่โลก"

ชุย เสี่ยวหลิน หัวหน้าบรรณาธิการ ไชน่า อิโคโนมิค วีคลี ในเครือพีเพิลส์ เดลี่ กล่าวว่า งานประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย ประจำปี 2561 นับเป็นกิจกรรมด้านการทูตกิจกรรมแรกที่มีจีนเป็นเจ้าภาพ และเป็นงานที่ผู้นำจีนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ งานประชุมปีนี้ยังสร้างสถิติใหม่ในแง่ของจำนวนผู้นำประเทศและผู้บริหารธุรกิจจากทั่วโลกที่เข้าร่วมประชุมมากกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา เขายังกล่าวอีกด้วยว่า ในมุมมองของเอเชียนั้น จีนกำลังเผชิญหน้ากับโลกในนามของทั้งเอเชีย โดยจีนได้ก้าวไกลไปอีกระดับในโลกยุคใหม่นี้

ชุย เสี่ยวหลิน เชื่อว่า จีนได้กลายเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอโครงการ Belt and Road ที่จีนได้นำการพัฒนามาสู่ประเทศต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง ซึ่งประเทศเหล่านั้นก็ช่วยให้เศรษฐกิจของจีนเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน ชุยเน้นย้ำว่า การพัฒนาโครงการ Belt and Road ไม่ใช่เพียงการค้นหาโอกาสในการทำธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธกิจในการนำเสนอว่า บริษัทจีนได้เตรียมพร้อมที่จะก้าวหน้าสู่เวทีโลก ซึ่งทั่วโลกจะมีโอกาสได้เห็นการมีส่วนร่วมของจีน ขณะที่การมีส่วนร่วมของเทียนส์ กรุ๊ป ในโครงการ Belt and Road ก็เป็นอีกปัจจัยที่บ่งชี้ให้เห็นถึงการก้าวไกลสู่โลกของภาคธุรกิจจีน

ที่มา: Tiens Group

ลิงค์ภาพประกอบข่าว:

http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=310274

AsiaNet 73096

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4