"เล็บบาง เปราะและฉีกขาดง่าย จึงไม่ควรไว้เล็บให้ยาวจนเกินไป ใช้การตะไบเบาๆแทนการตัดเล็บ โดยใช้ตะไบอย่างละเอียดห้ามใช้ตะไบเหล็กเด็ดขาด ควรใช้น้ำมันมะกอกนวดเล็บบ่อยๆเพื่อให้เล็บแข็งแรงขึ้นไม่ฉีกขาดง่าย ที่สำคัญควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จำพวกธัญพืช ปลา และผักใบเขียว และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแค่นี้ก็ทำให้เล็บของคุณไม่เปราะฉีกง่าย แถมยังมีสุขภาพดีอีกด้วย
"เล็บเหลือง สามารถดูแลเองได้ง่ายๆ เพียงใช้เปลือกมะกรูด หรือมะนาวขัดเล็บบ่อยๆ เล็บของท่านก็จะขาวขึ้นได้
"สำหรับคนที่ชอบทำเล็บ สิ่งสำคัญควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีปราศจากตัวทำลายเล็บ ในกรณีของคนที่ชอบทาสีเล็บ ควรเลือกสีทาเล็บที่ได้คุณภาพมาตรฐาน หรือแม้แต่น้ำยาล้างเล็บ ควรเลือกแบบที่ปราศจากอะซิโตน แต่ให้มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือแบบที่ไม่แรงจนเกินไป จนกัดให้เล็บเหลืองหรือเปราะบางได้ ควรพักเล็บจากการทาสีบ้าง
"การทาสีเล็บ อาจช่วยทำให้เล็บแข็งแรงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่หากไม่มีการบำรุงรักษาหรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็ไม่ได้ช่วยทำให้เล็บแข็งแรงได้ เพราะการทาสีหรือตัวบำรุงเป็นเพียงปัจจัยภายนอกเท่านั้น"สำหรับคนไม่ทำเล็บ เพียงแค่ดูแลรักษาความสะอาด ไม่ให้มีขี้เล็บหรือสิ่งสกปรกติดตามซอกเล็บก็เพียงพอแล้ว และที่สำคัญควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
"การทาครีมบำรุงมือและเล็บ ช่วยบำรุงได้ในระดับหนึ่งทีเดียว เพราะจะช่วยทำให้มือและเล็บชุ่มชื่นขึ้น ทำให้เกิดการยืดหยุ่นได้ดีและยังช่วยเคลือบผิวจากสภาพอากาศเย็น เช่น สาวในออฟฟิศที่อยู่ในห้องแอร์ตลอด ช่วยยืดอายุผิวได้ดี
การที่จะทำให้เล็บแข็งแรงสุขภาพดีนั้นสิ่งสำคัญที่สุดเราควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการด้วย สำหรับวิตามินที่ควรกินเสริมหรือปริมาณที่มากกว่าตัวอื่นๆ เพื่อช่วยให้เล็บสุขภาพดีและแข็งแรงนั่นก็คือ วิตามินบี 2 ซึ่งจะพบได้มากในเครื่องในสัตว์ นม เนย ถั่ว ชีส ผักใบเขียว เนื้อปลา ไข่ เป็นต้น และที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือควรเสริมด้วยธาตุเหล็ก สำหรับคนที่มีเล็บแบน เปราะบาง ฉีกขาดง่าย ซึ่งธาตุเหล็กจะพบได้มากในพวกเนื้อสัตว์จำพวกสัตว์ปีก ปลา และผักใบเขียว
ขอขอบคุณข้อมูลจากร้าน Nail & Spa ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี)