ปภ.รายงานมีจังหวัดได้รับผลกระทบจากวาตภัย 32 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน

จันทร์ ๓๐ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๐:๐๘
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 23 – 28 เมษายน 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 32 จังหวัด 84 อำเภอ 172 ตำบล 393 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,320 หลังคาเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 23 – 28 เมษายน 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 32 จังหวัด 84 อำเภอ 172 ตำบล 393 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,320 หลังคาเรือน 7,715 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็น

ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลำพูน และอำเภอบ้านโฮ่ง รวม 6 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 439 หลัง พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอจุน และอำเภอดอกคำใต้ รวม 8 ตำบล 28 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 437 หลัง กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองลาน อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอปางศิลาทอง และอำเภอขาณุวลักษบุรี รวม 20 ตำบล 62 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 250 หลัง ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเถิน และอำเภอห้างฉัตร รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 200 หลัง นครสวรรค์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเก้าเลี้ยว อำเภอไพศาลี อำเภอบรรพตพิสัย อำเภอชุมแสง และอำเภอชุมตาบง รวม 6 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 39 หลัง แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเด่นชัย อำเภอสูงเม่น และอำเภอลอง รวม 6 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 37 หลัง เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฮอด อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า อำเภอฝาง และอำเภอแม่แจ่ม รวม 8 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 30 หลัง พิจิตร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดงเจริญ อำเภอตะพานหิน และอำเภอเมืองพิจิตร รวม 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 24 หลัง เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอวิเชียรบุรี และอำเภอเขาค้อ รวม 6 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 157 หลัง น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเวียงสา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 7 หลัง ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอแม่สอด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 หลัง เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ลาว อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอพาน รวม 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกู่แก้ว อำเภอน้ำโสม อำเภอหนองหาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอเมืองอุดรธานี รวม 14 ตำบล 57 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 724 หลัง หนองคาย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อ อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอรัตนวาปี รวม 8 ตำบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 357 หลัง บึงกาฬ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีวิไล อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง และอำเภอบุ่งคล้า รวม 7 ตำบล 17 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 71 หลัง ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอขุขันธ์ อำเภอปรางค์กู่ อำเภอภูสิงห์ อำเภอไพรบึง อำเภอโนนคูณ และอำเภอพยุห์ รวม 14 ตำบล 18 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 68 หลัง อุบลราชธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอน้ำยืน รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลัง หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีบุญเรือง และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 40 หลัง มุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหว้านใหญ่ รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 32 หลัง ขอนแก่น เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอแวงใหญ่ รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 31 หลัง เลย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าลี่ และอำเภอนาแห้ว รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 17 หลัง บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอห้วยราช รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 7 หลัง สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอปราสาท รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 4 หลัง สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอส่องดาว รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลัง มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวาปีปทุม รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 1 ราย

ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท และอำเภอหันคา รวม 11 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 96 หลัง ลพบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกเจริญ อำเภอชัยบาดาล อำเภอพัฒนานิคม รวม 9 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 70 หลัง อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอโพธิ์ทอง รวม 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 51 หลัง อุทัยธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทัพทัน อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านไร่ และอำเภอห้วยคต รวม 12 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 65 หลัง ประจวบคีรีขันธ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปราณบุรี และอำเภอบางสะพาน รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 3 หลัง สมุทรสงคราม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภออัมพวา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1 หลัง

ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเวียงสระ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 หลัง

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม อีกทั้งจ่ายเงินสงเคราะห์ค่าจัดการศพตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๓๘ โอซีซี มอบฝาขวดน้ำ เพื่อทำเก้าอี้ให้น้อง ๆ ในโรงเรียนขาดแคลน
๑๑:๑๘ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดศูนย์ทดสอบหลักสูตร CISA ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
๑๑:๓๕ 'ราชบุรี มีลาย' อนุรักษ์มรดกแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น ชูอัตลักษณ์ 'ลายผ้าราชาบุรี (กาบโอ่งนกคู่) รองผู้ว่าฯ เมืองโอ่ง
๑๑:๕๓ พีทีที สเตชั่น ร่วมกับ ทิพยประกันภัย มอบความสะดวกและรวดเร็ว ซื้อประกันภัยผ่าน QR Code
๑๑:๐๙ FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น
๑๐:๑๙ รมว.อว. เป็นประธานเปิดบูธนิทรรศการผลงาน @ Thai Pavilion พร้อมให้กำลังใจนักประดิษฐ์ไทย นำเสนอผลงานสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเจนีวา ครั้งที่
๑๐:๔๖ BRIDGESTONE TURANZA T005 EV ยางพรีเมียมสมรรถนะสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เหนือระดับด้วยเทคโนโลยี ENLITEN(R)ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ MG4 XPOWER
๐๙:๑๔ อพท. เปิดรับสมัคร สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ชิงเงินรางวัลกว่า 130,000
๐๙:๔๑ หนังสือ Royal Thai Cuisine ตำรับอาหารไทยชาววัง วิทยาลัยดุสิตธานี
๑๘ เม.ย. เด็ก ม.กรุงเทพ ยกทีม คว้าชนะเลิศครีเอทคลิปสั้นได้ใจฟูมาก