กรมประมง...ปลุกวิถีเศรษฐกิจชุมชน ปั้น “ลูกอ๊อดกบ” จ.นครพนม เข้าโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ด้านการประมงแห่งแรกของไทย

อังคาร ๐๕ มิถุนายน ๒๐๑๘ ๑๑:๒๙
ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เป็นนโยบายสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยที่ผลิตสินค้าทางการเกษตรประเภทเดียวกันได้รวมกลุ่มกันเพื่อบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และยกระดับสินค้าให้มีมาตรฐาน รวมทั้งสามารถแข่งขันได้ในตลาด ภายใต้การสนับสนุนอย่างบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีแล้ว โดยในปีงบประมาณ 2561 กรมประมงมีเป้าหมายในการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่รวมทั้งสิ้น 77 แปลง มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 4,667 ราย คิดเป็นพื้นที่กว่า 48,000ไร่ โดยในด้านการประมงนั้นมีสัตว์น้ำที่เข้าร่วมโครงการฯ หลากหลายชนิด อาทิเช่น ปลานิล ปลาตะเพียนขาว ปลายี่สก ปลาดุก ปลาแรด กุ้งก้ามกราม กุ้งขาวแวนาไม ปูทะเล รวมถึงลูกอ๊อดกบ เป็นต้น ซึ่งสัตว์น้ำบางชนิดถือเป็นสัตว์น้ำชนิดใหม่ที่เพิ่งเริ่มนำร่องเข้าโครงการฯ อีกด้วย

"ลูกอ๊อดกบ" เป็นหนึ่งในชนิดสัตว์น้ำนำร่องที่กรมประมงได้ผลักดันให้เข้าสู่โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ด้านการประมงแห่งแรกของประเทศไทย เนื่องจากเป็นสัตว์น้ำที่ตลาดในท้องถิ่นมีความต้องการสูง ราคาดี อีกทั้งยังเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสในช่วงหน้าแล้งที่เกษตรกรว่างเว้นจากการปลูกข้าวนาปีมาปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดกบ ซึ่งช่วยสร้างวิถีเศรษฐกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้เป็นอย่างดี

นายสมชัย วงษ์สุข เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงลูกอ๊อดกบบ้านหนองแต้ หมู่ที่ 7 ตำบลนาขาม อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม เล่าว่า ตนเป็นผู้จัดการแปลงภาคเกษตรกรของโครงการแปลงใหญ่ลูกอ๊อดกบจังหวัดนครพนม ซึ่งที่นี่ชาวบ้านมีการเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดกบมาเป็นระยะเวลานานกว่า 15 ปี จนเป็นที่รู้จักกันทั่วไป กลายเป็นคำพูดติดหูว่า "กบร้องก้องเรณู" โดยชาวบ้านจะเลี้ยงลูกอ๊อดกบกันในช่วงหน้าแล้งระหว่างเดือนมีนาคมถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นช่วงว่างเว้นจากการทำนาปี เนื่องจากขาดแคลนน้ำไม่สามารถทำการเกษตรเพาะปลูกอย่างอื่นได้ โดยในระยะแรกเลี้ยงกันเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ปะทังครอบครัว จนกระทั่งตลาดเริ่มขยายตัวมีความต้องการสูงขึ้น ชาวบ้านจึงสนใจหันมาเลี้ยงกันมากขึ้น แต่ก็ยังประสบปัญหาในการผลิตเนื่องจากค่าอาหารซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการเลี้ยงสูง รวมถึงเกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดเทคนิค ความรู้ และวิธีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง จนเมื่อกรมประมงโดยสำนักงานประมงจังหวัดนครพนม และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดนครพนม ได้เข้ามาแนะนำให้มีการรวมกลุ่มกันตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ด้านการประมง ซึ่งมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการฯ จำนวน 32 ราย

มีพื้นที่การเพาะเลี้ยงประมาณ 54 ไร่ จึงได้ทำการจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เพาะเลี้ยงลูกอ๊อดกบกลุ่มแรกของประเทศไทย ซึ่งผลจากการรวมกลุ่มทำให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียน และช่วยในการต่อรองราคาปัจจัยการผลิตต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุนในการเลี้ยง อีกทั้งภาครัฐยังเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาในการบริหารจัดการ พร้อมสนับสนุนความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเพาะเลี้ยงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

นายสมชัย เล่าต่อไปว่า สำหรับการเพาะพันธุ์ลูกอ๊อดกบนั้น เริ่มจากการนำพ่อแม่พันธุ์กบจำนวน 150 คู่มาปล่อยไว้ในบ่อดินขนาด 4x20 เมตร เป็นเวลา 1 คืน เพื่อให้ผสมพันธุ์วางไข่ตามธรรมชาติ ตอนเช้าจึงนำพ่อแม่พันธุ์ออกจากบ่อ จากนั้นประมาณ 1 วัน ไข่จะฟักออกเป็นตัวลูกอ๊อด ใช้ระยะเวลาอนุบาลอีก 18-20 วัน ก็สามารถจับขายได้ โดยแม่พันธุ์กบ 1 ตัว จะให้ผลผลิตลูกอ๊อดถึง 3,000 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละปีจะมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับซื้อผลผลิตลูกอ๊อดถึงในพื้นที่ เพื่อนำไปส่งขายออกสู่ตลาดทั่ว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จังหวัดกาฬสินธุ์ บึงกาฬ อำนาจเจริญ และยโสธร เป็นต้น สำหรับราคาขายในช่วงต้นฤดูสูงถึงกิโลกรัมละ 180 – 200 บาท กลางฤดูราคาจะลดลงอยู่ที่กิโลกรัมละ 110 -150 บาท (450-500 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม) ซึ่งสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ปีละกว่าหลายสิบล้านบาท ซึ่งถือเป็นการหมุนเวียนการใช้ประโยชน์พื้นที่นาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

แหละนี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จของโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ในด้านการประมงที่เน้นใช้หลักการตลาดนำการผลิต เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาการทำเกษตรของประเทศไทยให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4