ทุ่งกุลาร้องไห้พ้นความเสียหาย หลังได้รับฝนหลวงช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

วันนี้ (27 มิถุนายน 2561) เวลา 10.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเร่งช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรทุ่งกุลาร้องไห้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2.1 ล้านไร่ กำลังทำการเพาะปลูกข้าวพันธุ์ต่างๆ โดยมีจำนวนพื้นที่ที่กำลังประสบกับภาวะฝนทิ้งช่วงประมาณ 757,000 ไร่ รวมถึงพื้นที่การเกษตรใกล้เคียงที่ประสบปัญหาฝนตกน้อย ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ โดยได้สั่งการให้ปรับฐานจากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสงขลา มาตั้งฐานหน่วยปฏิบัติการจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อบูรณาการวางแผนการทำฝนร่วมกับหน่วยปฏิบัติการจังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา ซึ่งจากการปฏิบัติการระหว่างวันที่ 22 – 24 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่นและนครราชสีมา สามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ได้ตามเป้าหมาย คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 312,000 ไร่ ซึ่งทำให้มีฝนตกปริมาณเล็กน้อยในบริเวณพื้นที่การเกษตรอำเภอต่างๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ด ศรีษะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และขอนแก่น โดยได้ติดตามผลปฏิบัติการจากการสอบถามไปยังเกษตรกร อาสาสมัครฝนหลวง และการตรวจสอบจากถังวัดน้ำฝน

นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้และพื้นที่ใกล้เคียง จะปฏิบัติการต่อเนื่องทุกวันหากมีสภาพอากาศที่เหมาะสม เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอต่อ การเพาะปลูกของเกษตรกร เนื่องจากยังมีนาข้าวที่อยู่ในระยะที่ต้องการน้ำมากและยังไม่มีน้ำขังในกระทงนา ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์และสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดทุกวัน ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำที่มีความต้องการในภูมิภาคอื่นๆ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงปฏิบัติการช่วยเหลือทุกวันเช่นกัน โดยเมื่อวานนี้ (26 มิถุนายน 2561) หน่วยปฏิบัติการฯ จังหวัดพิษณุโลก ขอนแก่น ลพบุรี กาญจนบุรี นครราชสีมา และสระแก้ว ได้ขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำที่มีการร้องขอ ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัด กำแพงเพชร มหาสารคาม และร้อยเอ็ด มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางเป็นแห่งๆ บริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครราชสีมา และสระแก้ว รวมถึงมีฝนตกบริเวณพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำตะคองและอ่างเก็บน้ำห้วยยางตามเป้าหมายปริมาณเล็กน้อยถึงปานกลางด้วย