เนสท์เล่ เพียวไลฟ์ จับมือ WWF ประเทศไทย เปิดศูนย์การเรียนรู้เยาวชนพิทักษ์สายน้ำ ปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ

จันทร์ ๐๒ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๔:๐๘
เพราะ "น้ำ" เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีพของมนุษย์ทั้งในการอุปโภคและบริโภคในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการรักษาแหล่งน้ำให้สะอาดเพื่อให้ลูกหลานมีใช้ในอนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ในฐานะน้ำดื่มคุณภาพที่ใส่ใจดูแลแหล่งน้ำเพื่ออนาคตอันสดใส จึงได้จับมือกับพันธมิตรอย่าง WWF ประเทศไทย เปิดศูนย์การเรียนรู้ "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" แห่งแรกในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ โรงเรียนสาคลีวิทยา เพื่อปลูกจิตสำนึกนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเรื่องของการอนุรักษ์ และจัดการทรัพยากรน้ำบริเวณชุมชนอย่างยั่งยืน

นายลูก้า คิโอด้า ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการดูแลทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยได้ริเริ่มดำเนินโครงการ "เยาวชนพิทักษ์สายน้ำ"

ที่ร่วมมือกับ WWF ประเทศไทย จัดขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2558 โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำรอบๆ โรงเรียนแก่นักเรียนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งพัฒนาคนรุ่นใหม่ในการเป็นผู้พิทักษ์น้ำ ซึ่งเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ก็ยังจัดกิจกรรมอนุรักษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ ได้ต่อยอดโครงการฯ จากโรงเรียนสู่ชุมชนด้วยการเปิดศูนย์การเรียนรู้ "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเรื่องของ

การอนุรักษ์น้ำในโรงเรียนชุมชนเพราะเราเล็งเห็นว่าโรงเรียนชุมชนเป็นศูนย์กลางสำคัญในการส่งเสริมการอนุรักษ์น้ำให้กับคนในชุมชนในวันนี้และอนาคต พร้อมถ่ายทอดความรู้แก่ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเยี่ยมชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในเรื่องการอนุรักษ์แหล่งน้ำตั้งแต่แหล่งกำเนิดของน้ำไปจนถึงการดูแลคุณภาพน้ำ

ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Nestle Purpose of "Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) เพื่อโลกของเรา"

นางสาวเยาวลักษณ์ เธียรเชาว์ ผู้อำนวยการ WWF-ประเทศไทย กล่าวว่า "WWF ประเทศไทย และผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ เป็นพันธมิตรที่ดีในการดำเนินกิจกรรมให้ความรู้เรื่องของการอนุรักษ์น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตั้งแต่เริ่มต้นทำโครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ จนถึงการเปิดศูนย์การเรียนรู้ "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" ในวันนี้ นับเป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมในการสร้างต้นแบบด้านจิตสำนึกเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และถ่ายทอดไว้ให้คนรุ่นหลังได้มีน้ำสะอาดไว้ใช้ในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นร่วมกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน"

ภายในศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ ถูกแบ่งออกเป็น 4 สถานี เริ่มจาก สถานีที่ 1 "น้ำจืดอยู่หนใด" เป็นสถานีที่ให้ความรู้เรื่องของต้นกำเนิดของแหล่งน้ำจืดซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าน้ำที่นำมาใช้อุปโภคและบริโภคมีน้อยกว่า 1% เท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงควรเริ่มอนุรักษ์น้ำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังมีน้ำสะอาดไว้ใช้อย่างเพียงพอ ต่อด้วยสถานีที่ 2 "อดีต ปัจจุบัน คลองขนมจีนสายน้ำแห่งชีวิต" เป็นการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของคลองขนมจีน จากอดีตที่น้ำเป็นเหมือนชีวิตของชุมชนขนมจีน ทั้งเรื่องการกิน ใช้ และสัญจรของประชากรทั้งสิ้น 66,700 คนจาก 6 ตำบล ซึ่งมีจำนวนบ้านเรือนกว่า 24,606 ครัวเรือน แต่เมื่อวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันเปลี่ยนไปก็อาจส่งผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำได้ คนเราจึงควรตระหนักถึงการดูแลใส่ใจแหล่งน้ำ หลังจากเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปของสายน้ำ ต่อมาสถานีที่ 3 โซ่อาหาร และสายใย ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำที่มีคุณภาพ เพราะความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำทำให้มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน หากน้ำเน่าเสีย หรือสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ไหนหายไป ก็ทำให้สายพันธุ์อื่นได้รับผลกระทบเช่นกัน จากความรู้ 3 สถานี ก็เข้าสู่สถานีที่ 4 โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ ซึ่งเป็นการสร้างความตระหนักต่อหน้าที่ของการดูแลสายน้ำเพื่อปลูกจิตสำนึกของเยาวชนและคนทั่วไปให้หันมาอนุรักษ์น้ำอย่างยั่งยืน

หลังจากที่ได้ความรู้กันจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ยังมีสถานีพิเศษซึ่งเป็นการแสดงโครงงานที่ต่อยอดจากโครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ และได้นำไปปฏิบัติจริง ได้แก่ ผลงาน "กังหันสวย กรองน้ำใส" จากโรงเรียนวังน้อย (พนมยงค์วิทยา) และ "เครื่องตีน้ำ" ของโรงเรียนท่าเรือนิตยานุกูล มาแสดง นอกจากนี้ ภายในโรงเรียนสาคลีวิทยา ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดสร้างศูนย์การเรียนรู้ "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" ก็มีผลงานที่โดดเด่น ทั้งการเปลี่ยนคุณภาพแหล่งน้ำรอบโรงเรียน จากน้ำเสียเป็นน้ำใส โดยใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือน จนต่อยอดไปเป็นโรงเรียนต้นแบบให้กับโรงเรียนอีกหลากแห่งในพื้นที่ รวมถึงชุมชนรอบข้าง โดยได้พัฒนาพื้นที่โรงเรียนกว่า 33 ไร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5 จุด ประกอบด้วย กระชังปลาและกระชังกุ้งฝอย กระชังหอยขม โรงเพาะเห็ด บ่อสายบัว และบ่อแพผัก จนสามารถนำผลผลิตที่ได้มาประกอบอาหารให้เด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนได้รับประทานเป็นอาหารกลางวัน รวมถึงนำไปขาย สร้างรายได้ให้แก่โรงเรียน

ด้าน น้องเต๊าะ นาวสาวปนิดา กาวมาตุ อายุ 18 ปี ตัวแทน แกนนำโครงการ "เยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" จากโรงเรียนสาคลีวิทยา กล่าวว่า "หนูเป็นแกนนำนักเรียนของโครงการฯ ตั้งแต่ปี 1 เลยค่ะ หนูช่วยเผยแพร่ความรู้ให้น้องๆ และขยายเครือข่ายสู่เพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ค่ะ สำหรับศูนย์การเรียนรู้ฯ ในวันนี้ เป็นการขยายเครือข่ายสู่ชุมชนด้วยการสร้างศูนย์นิทรรศการ ตอนแรกที่เสนอไปคิดว่าศูนย์การเรียนรู้จะเป็นแค่ศาลาเล็กๆ ที่มีป้ายติดมอบความรู้ และเราไปยืนเล่าเรื่องราวที่เราได้ทำมา แต่พอได้เห็นศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดตัววันนี้ หนูว่าสวย และยังมีสถานีต่างๆ กับเกมต่างๆ ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่เราเคยทำมาในอดีตเห็นว่าเมื่อก่อนน้ำเป็นอย่างไร แล้วมาย้อนดูในปัจจุบันนี้ หนูรู้สึกดีมากที่พี่ๆ ทำให้เราขนาดนี้ค่ะ หนูก็อยากเชิญชวนให้คนในชุมชนใกล้เคียง และโรงเรียนใกล้เคียงเข้ามาดูศูนย์การเรียนรู้กันค่ะ"

"ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าศูนย์การเรียนรู้ "โครงการเยาวชนพิทักษ์สายน้ำ" จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกให้คนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้เป็นกำลังสำคัญในการเป็นผู้พิทักษ์น้ำ ง่ายๆ เพียงเริ่มจากเด็กและเยาวชนซึ่งจะเติบโตไปพร้อมกับอนาคตที่เต็มไปด้วยโอกาสดีๆ พร้อมดื่มน้ำคุณภาพที่เติมความสดชื่นให้กับร่างกายของเด็กๆ และครอบครัวครับ" นายลูก้า กล่าวทิ้งท้าย

สารถึงบรรณาธิการ

เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 191 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 328,000 คนต่างมีพันธสัญญาต่อเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกเช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่ บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำดื่มของเนสท์เล่ในประเทศไทย ได้แก่ น้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ น้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟองและเครื่องดื่มน้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟองแต่งกลิ่นธรรมชาติเปอริเอ้ น้ำแร่ธรรมชาติชนิดมีฟองและ

เครื่องดื่มรสผลไม้ซานเปอริกาโน่ และน้ำแร่ธรรมชาติอะควาพันนา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้