หลายคนอาจไม่คุ้นเคยกับ PechaKucha แต่แท้จริงแล้วเวทีนี้เกิดขึ้นในไทยตั้งแต่ปี 2008 หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้มีการจัดอย่างเป็นทางการจนกระทั่งกลับมาอีกครั้งในปี 2018 โดย เชน สุวิกะปกรณ์กุล แห่ง Serindia Gallery และ Hardcover Art Book Shop ผู้เป็น City Organizer ได้ประสานงานกับ PechaKucha และออกมาเป็นงาน PechaKucha Night Bangkok โดยได้รับความร่วมมือจาก Open House และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษอย่าง Astrid Klein และ Mark Dytham สองสถาปนิกเจ้าของบริษัทออกแบบ Klein Dytham Architecture (KDa) จากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบ Open House แห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มการจัดเวทีแห่งไอเดีย PechaKucha ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2003 ที่โตเกียว ในค่ำคืนหนึ่งที่ได้รวบรวมผู้คนจากสารพัดวงการได้มีโอกาสนำไอเดียและประสบการณ์ส่วนตัวมาปล่อยของต่อหน้าสาธารณชน โดยไม่มีข้อจำกัดว่าจะเป็นใคร มีชื่อเสียงหรือไม่ อาวุโสหรือเด็กกว่า คนดังหรือโนเนม ฯลฯ ผู้นำเสนอทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันภายใต้เวทีนำเสนอของ PechaKucha และบรรยากาศการนำเสนอที่เป็นกันเองและสนุกสนาน ทำให้ผู้ฟังได้ไอเดียและเรียนรู้วิธีคิดอย่างสร้างสรรค์จากผู้นำเสนอและสามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเพื่อที่จะกลายเป็นผู้นำทางความคิดที่ดีในอนาคต
เอกลักษณ์ของ PechaKucha คือตัวเลข 20 x 20 อันหมายถึง การนำเสนอไอเดียด้วย 20 ภาพ/สไลด์ โดยใช้เวลาภาพ/สไลด์ละ 20 วินาที การนำเสนอด้วยเวลาที่จำกัดเช่นนี้ทำให้ผู้ฟังจดจ่อกับประเด็นที่นำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่น่าเบื่อ ขณะเดียวกันผู้พูดก็จะต้องเตรียมตัวและเตรียมข้อมูลที่จะนำเสนออย่างรอบด้านแต่กระชับ เพื่อที่จะสามารถนำเสนอความคิดของตนได้ครบถ้วนในระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งทำให้งานและบรรยากาศมีความสนุกสนานและเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่สายอาชีพไหน หรือตำแหน่งใด ๆ ในสังคมก็ตามก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำเสนอ และงาน PechaKucha ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดในศูนย์ประชุมขนาดใหญ่พร้อมด้วยผู้ฟังนับพันนับหมื่นเสมอไป หากมีเพียงพื้นที่เล็ก ๆ พร้อมจอนำเสนอและผู้คนอีกจำนวนหนึ่ง เท่านี้ก็สามารถจัด PechaKucha ได้แล้ว
สำหรับ PechaKucha Night Bangkok Vol. 23 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ บริเวณ Open House ชั้น 6 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้ผู้นำเสนอทั้งหมด 10 ท่าน จากหลายสาขาอาชีพ ได้แก่ Astrid Klein และ Mark Dytham - สองผู้ก่อตั้ง PechaKucha และสถาปนิกเจ้าของบริษัทออกแบบ Klein Dytham Architecture (KDa) จากโตเกียว, Jonas Koblin - เจ้าของแบรนด์แว่นตา Niche Nation, อัครินทร์ ศิวพรพิทักษ์ - ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์กาแฟ Coffeeology และคอฟฟี่โรสเตอร์แห่ง Montdao x Radi, ทอม โพธิสิทธิ์ - ช่างภาพอาชีพผู้สนใจเรื่องราวสิ่งแวดล้อมและผลกระทบต่อสังคม, กวิน แก่นตระกูล - General Manager, MP Group, วรุต ตั้งสืบกุล - เจ้าของสตูดิโอเฟอร์นิเจอร์ VIVI Home Decorative, พิชฐญาณ์ โอสถเจริญผล - ศิลปิน นักออกแบบ และนักวาดภาพประกอบ, ปิติรัชต์ จูช่วย - บรรณาธิการสำนักพิมพ์ Siam Renaissance และ ศิริน กันคล้อย - นักออกแบบตัวอักษร
ไคลน์และไดแธมได้เล่าเรื่องที่มาที่ไปของโปรเจกต์ออกแบบในญี่ปุ่นอย่าง Daikanyana T-Site และ Ginza Place ไปจนถึงโปรเจกต์ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี Open House
ทอม โพธิสิทธิ์ - หนึ่งในผู้นำเสนอซึ่งทำงานเป็นช่างภาพแฟชั่น แต่มีความสนใจประเด็นปัญหาทางสังคมเป็นพิเศษโดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ได้สะท้อนปัญหามาในรูปแบบภาพถ่าย ซึ่งเขาได้ลงพื้นที่จริงและถ่ายทำเซ็ตภาพขยะพลาสติกที่ถูกปล่อยลงสู่ทะเล กลายเป็นไมโครพลาสติก และสัตว์ทะเลจำนวนมากกำลังตายในจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
ส่วน ปิติรัชต์ จูช่วย - บรรณาธิการสำนักพิมพ์ Siam Renaissance ผู้หลงใหลภาพถ่ายเก่าซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เธอได้นำภาพถ่ายเก่าของประเทศไทยในยุค Siam Renaissance ช่วงรัชกาลที่ 5 - 6 ซึ่งเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ การเมือง และพัฒนาการทางสังคมสยาม มีการเปิดรับวิทยาการและวัฒนธรรมต่างชาติ ความเป็นสมัยใหม่เริ่มเข้าสู่สยามประเทศ ในขณะเดียวกันมรดกทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะพระราชพิธีต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ สะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัยและอารยธรรมของสยามที่มีอยู่แล้ว และดำเนินในพร้อมกับความทันสมัยแบบตะวันตก ซึ่งการศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านทางภาพถ่ายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ผู้คนในยุคปัจจุบันเข้าใจอดีต เข้าใจรากเหง้าของประเทศตนเอง อีกทั้งเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยไขปมหรือช่วงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่หายไปให้กลับมาชัดแจ้งและเป็นที่สนใจในแวดวงวิชาการประวัติศาสตร์อีกครั้ง
มาถึงประเด็นที่ถูกกล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในยุคปัจจุบันอย่างเรื่องของ Blockchain
กวิน แก่นตระกูล - General Manager MP Group ได้มาขมวดปมและไขข้อสงสัยที่ผู้คนมีต่อ Blockchain ว่ามันคืออะไรกันแน่ ซึ่งแท้จริงแล้วสิ่งที่เรียกว่า Blockchain นี้ คือ ระบบจัดการข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกรรมออนไลน์ ซึ่งไม่มีตัวกลาง ทำให้ความเสี่ยงที่จะถูกเจาะข้อมูลจากฐานข้อมูลส่วนกลางดังเช่นฐานข้อมูลของสถาบันการเงินต่าง ๆ ในปัจจุบัน จะไม่เกิดปัญหานี้อีกต่อไป อีกทั้งระบบเข้ารหัสข้อมูลแบบ SHA-256 ความ
น่าจะเป็นในการคาดเดารหัสที่มากจนแทบจะไม่สามารถถอดรหัสได้ในระยะเวลาอันสั้น จุดเด่นเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นแพลตฟอร์มของธุรกรรมในโลกอนาคตอันใกล้ และไม่ใช่แค่เพียงสถาบันการเงินเท่านั้นที่จะนำ Blockchain ไปใช้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างใกล้ตัวล้วนแต่สามารถใช้ Blockchain ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ยืนยันสถานะ และธุรกรรม/นิติกรรมทุกอย่าง ตั้งแต่ระบบเวชระเบียนของโรงพยาบาล การแชร์ไฟล์กับเพื่อนหรือภายในองค์กร การเก็บข้อมูลการเลือกตั้งและกิจกรรมทางการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วม หรือการประยุกต์ใช้ที่พื้นฐานที่สุดอย่างการใช้แทนเงินในการชำระหนี้หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ปัจจุบัน PechaKucha ถูกจัดขึ้นแล้วกว่า 1,000 เมืองทั่วโลกและทุกสัปดาห์ ทั้งในเอเชีย อเมริกา ยุโรป และแอฟริกา เวทีเปิดกว้างทางความคิดสำหรับคนยุคใหม่เช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดของ Open House ที่ได้รับการออกแบบให้รองรับกิจกรรมแนวสร้างสรรค์ และเคยเป็นพื้นที่จัดงานสไตล์ครีเอทีฟโดยศิลปินชื่อดังและนักคิดมากมาย ไม่เพียงแต่การเป็นพื้นที่สำหรับการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น Open House ยังมีบริเวณโดยรอบที่กว้างขวาง โปร่งโล่ง สบายตาด้วยสีเขียวจากธรรมชาติสลับกับวิวใจกลางเมือง ซึ่งทุกคนสามารถมาพักผ่อน ทำงาน ค้นหาความรู้ และอิ่มอร่อยกับอาหารหลายสัญชาติและดีต่อสุขภาพ ซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และความเป็นเมืองร่วมสมัยอย่างลงตัว