รู้หรือไม่..! อากาศในบ้านก่อให้เกิดภูมิแพ้และหอบหืดได้ ฟิลิปส์ ชวนเหล่าแม่ลูกร่วมเวิร์คช็อปห่างไกลโรคภูมิแพ้ เริ่มต้นได้ที่บ้าน

พฤหัส ๐๒ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๑๔
มั่นใจว่าคุณแม่ยุคใหม่หลายๆ คนมักจะให้ความสำคัญและใส่ใจในการดูแลสุขภาพของลูกน้อย ทั้งเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แต่มีอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณแม่หลายๆ ท่านอาจมองข้าม นั่นคือ สภาพแวดล้อมภายในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อากาศที่เราหายใจเข้าไป ตามสถิติแล้ว คนเราหายใจเข้า – ออกถึงวันละ 24,000 ครั้ง และเมื่ออากาศภายในบ้านเต็มไปด้วย สิ่งแปลกปลอมแฝงหรือผงฝุ่นที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ผลกระทบที่ตามมา คือ ลูกน้อยของคุณอาจป่วยเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืดแบบที่ตัวคุณแม่เองก็คาดไม่ถึง…!!

บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้จัดงาน "รวมพลคนไม่(ยอม) แพ้ by Philips Air Purifier" ขึ้น นำโดยนางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจPersonal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด "ด้วยวิสัยทัศน์ของฟิลิปส์ เรามีความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนช่วยสร้างความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีให้กับผู้คน ดังนั้น นอกจากเราจะนำเสนอนวัตกรรมที่มีคุณค่าแล้ว เรายังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้ความรู้ เพื่อการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน เราจึงได้จัดงานในวันนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้ตระหนักถึงความสำคัญของอากาศภายในบ้าน ซึ่งต้องบอกว่าหลายๆ คนอาจลืมคิดไปว่าอากาศในบ้านสำคัญยังไง เพราะเราใช้ชีวิตในบ้านมากกว่า 8-10 ชั่วโมงโดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ จะใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่าปกติ และที่น่าตกใจคือ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกพบว่า อากาศในบ้านนั้นอาจสกปรกกว่าอากาศนอกบ้านได้ถึง 2-5เท่า ซึ่งอากาศที่เราสูดเข้าไปเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มีความสำคัญกับร่างกายและสุขภาพของเราอย่างมาก เพราะเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ และโรคอื่นๆ ได้"

ด้าน รศ.พญ. รวีรัตน์ สิชฌรังษี (หมอใหม่) กุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลพระรามเก้า มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับการปกป้องลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ในงานฯ โดยคุณหมอใหม่กล่าวว่า "โดยปกติแล้วโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยๆ ในประเทศไทย คือ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic rhinitis) โรคหอบหืด (Asthma) และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) โดยทั้งสามโรคจะเกิดอาการ เมื่อร่างกายได้รับสารกระตุ้นบางอย่าง และมีปฏิกิริยาตอบสนองสารกระตุ้นมากกว่าปกติหรือไวกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแพ้ที่อวัยวะต่างๆ อาทิ ไอ จาม คัดจมูก คันตา มีน้ำมูก หรือเกิดอาการหายใจหอบเหนื่อย เพราะหลอดลมมีอาการหดเกร็งตัว ทั้งนี้ สารก่อภูมิแพ้ภายในบ้านสามารถเกิดได้จากทั้งไรฝุ่นบนที่นอน แมลง สัตว์เลี้ยงแสนรัก เชื้อราในบ้านหรือแม้กระทั่งการทำครัว"

"สำหรับ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ในการดูแลลูกๆ เมื่อป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ นั่นคือ ล้างจมูก – ลูกต้องนอน – สอนให้ออกกำลัง – รวมพลังไปหาหมอ โดยแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียด ดังนี้

1. ล้างจมูก

การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือนั้นแสนง่าย ช่วยให้จมูกโล่งได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และการล้างจมูกนี้มีประโยชน์มาก ทั้งช่วยชะล้างเอาน้ำมูกที่อุดตันเวลาเป็นหวัด ล้างสารก่อภูมิแพ้และสิ่งสกปรกออกไปจากจมูก ทำให้โพรงจมูกโล่ง สำหรับผู้ที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หากล้างจมูกก่อนการพ่นยาจะทำให้ยาพ่นจมูกออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเพราะสัมผัสกับเยื่อบุจมูกได้มากขึ้นอีกด้วยนะคะ ** ควรฝึกหัดตั้งแต่เด็กน้อยอายุ 3 ขวบขึ้นไปและควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด

2. ลูกต้องนอน

การพักผ่อนให้เพียงพอ คือ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเด็กๆ เพราะ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะเป็นตัวเสริมให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมได้อย่างเหมาะสม

3. สอนให้ออกกำลัง

การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงทางร่างกายแล้ว ยังเสริมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่และคุณลูกได้ใช้เวลาสร้างสายสัมพันธ์ผ่านการออกกำลังกายร่วมกัน

4. รวมพลังไปหาหมอ

การใช้ยาตามแพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้จะช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น

ครอบครัวผู้เข้าร่วมงาน"รวมพลคนไม่(ยอม)แพ้ บาย Philips Air Purifier"

นอกจากเคล็ดลับดีๆ จากคุณหมอใหม่แล้ว ภายในงานยังจัดกิจกรรม "ชนะภูมิแพ้ด้วยโยคะ" จากสถาบัน Holistic Yoga ซึ่งกิจกรรมโยคะเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย เพราะการฝึกโยคะประกอบด้วย การบริหารกาย การบริหารการหายใจ และการฝึกความผ่อนคลาย ฝึกสมาธิ เป็นการฝึกทั้งด้านร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน เนื่องจากโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจมีปัจจัยหลายประการ ฉะนั้นในการฝึกจึงต้องฝึกอย่างเป็นองค์รวม (Holistic approach) โดยเริ่มจากการฝึกอาสนะในแนวผ่อนคลาย ร่วมกับการฝึกการหายใจแบบลึกๆ ช้าๆ ช่วยเรื่องบริหารปอด ฝึกการหายใจเข้าออกได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้อาการของภูมิแพ้ทุเลาลง อย่างไรก็ตาม การฝึกหายใจเพื่อบริหารปอดนั้น ควรให้ความสำคัญกับอากาศที่อยู่รอบตัวและอากาศที่เราหายใจเข้าไป นั่นคืออากาศต้องสะอาด ปราศจาก PM2.5 ซึ่งเป็นสารแปลกปลอมภายในอากาศที่ตาเรามองไม่เห็น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๘ 'AKS' เดินหน้าปรับพอร์ตสินเชื่อในบริษัทย่อย 'BYC' พร้อมดันมูลค่ากิจการทะลุ 400 ล้านบาท
๑๓:๔๑ ผถห.TPCH อนุมัติจ่ายปันผลปี 66 อัตรา 0.40 บ./หุ้น เตรียมรับทรัพย์ 20 พ.ค.67-มั่นใจผลงานปี 67 โตแกร่ง ลุยพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเพิ่มอีก 4
๑๓:๒๖ เกมเศรษฐี 2: Meta World คว้ารางวัล 'The Most Popular Rising Game of The Year' จากงาน Thailand Social AIS Gaming Awards
๑๓:๑๗ ผู้ถือหุ้น AGE ไฟเขียวปันผล 0.20 บาท ฉลุย
๑๓:๒๙ ไทยเวียตเจ็ทเสนอ โปรส่งท้าย เที่ยวคลายร้อน ตั๋วเริ่มต้น 100 บาท
๑๓:๔๗ TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %
๑๓:๔๑ LINE TODAY ปักธง 'LIVE TODAY' ออนไลน์ไลฟ์แห่งชาติ เดินหน้าดันพันธมิตรโต ตอกย้ำกลยุทธ์สร้างอิมแพคให้ธุรกิจคอนเทนต์
๑๓:๒๐ Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ลาน PARC PARAGON ต่อยอดกระเป๋ารุ่น Tabby Bag สู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมาย
๑๓:๔๒ YLG ชี้ทองคำผันผวนระยะสั้นรับแรงขายทำกำไร หลังคลายกังวลเหตุปะทะตะวันออกกลาง ระยะสั้นแนะขาย ระยะยาวหาจังหวะเก็บรับเทรนด์ระยะยาว 2-3
๑๓:๒๒ สสวท. จับมือ องค์การค้าของ สกสค. อบรมครู สควค. สร้างพลังครูวิทย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ