สศก. ร่วมเวทีคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ เร่งเครื่อง กรอบยุทธศาสตร์จัดการด้านอาหารไทย ระยะ 20 ปี

พุธ ๐๘ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๐:๒๔
เกษตรฯ เดินหน้า (ร่าง) กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 ปี 2560 – 2579 ระบุ ที่ผ่านมา ไทยประสบผลสำเร็จ สามารถลดสัดส่วนของผู้ขาดสารอาหารเหลือเพียงร้อยละ 9.5 ซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาผลิตภาพการผลิตทางการเกษตร ช่วยเกษตรกรสร้างรายได้ มีอาหารบริโภคหลากหลายและมีคุณค่าโภชนาการมากขึ้น

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2561 ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านความมั่นคงอาหารตลอดห่วงโซ่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการเฉพาะเรื่องภายใต้คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) เป็นประธาน เพื่อพิจารณา (ร่าง) กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 ปี 2560-2579

ในการนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานการปรับปรุง (ร่าง) กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 ปี 2560 - 2579 ตามความเห็นของคณะกรรมการเพื่อเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวภายในเดือนสิงหาคม 2561 และพิจารณาการจัดทำตัวชี้วัดเป้าหมายของ (ร่าง) กรอบยุทธศาสตร์ฯ ทั้ง 6 เป้าหมาย ประกอบด้วย เป้าหมายที่ 1 จำนวนคนขาดแคลนอาหารลดลง เป้าหมายที่ 2 ปริมาณการสูญเสียและขยะอาหารลดลง เป้าหมายที่ 3 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อคุณภาพและความปลอดภัยอาหารเพิ่มขึ้น เป้าหมายที่ 4 มูลค่าการค้าอาหารเพิ่มขึ้น เป้าหมายที่ 5 จำนวนคนที่มีภาวะโภชนาการขาดและโภชนาการเกินลดลง และ เป้าหมายที่ 6 มีหน่วยงานกลางประสานการดำเนินการ ก่อนนำเสนอในการประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติครั้งต่อไปในเดือนกันยายน 2561

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีบทบาทนำในการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านความมั่นคงอาหาร ซึ่งมีหลักการดำเนินงานเพื่อให้ประเทศไทยเกิดความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความพยายามที่จะลดจำนวนผู้ขาดสารอาหารในประเทศให้น้อยที่สุด ซึ่งที่ผ่านมานับว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในการดำเนินงานอย่างมาก โดยพิจารณาจากข้อมูลการสำรวจสัดส่วนของผู้ขาดสารอาหารในประเทศไทยของ FAO พบว่าเมื่อสิ้นสุดปี 2560 ประเทศไทยมีจำนวนผู้ขาดสารอาหารเพียงร้อยละ 9.5 ลดลงอย่างมากจากปี 2533 ซึ่งมีจำนวนผู้ขาดสารอาหารสูงสุดถึงร้อยละ 34.6 แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารและประชาชนสามารถเข้าถึงอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาผลิตภาพการผลิตทางการเกษตร ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นสามารถบริโภคอาหารได้หลากหลายและมีคุณค่าโภชนาการมากขึ้น

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านอาหาร โดยพิจารณาจาก "อัตราการพึ่งพาตนเอง (Self-Sufficiency Ratio: SSR)" ซึ่งเป็นดัชนีชี้ให้เห็นถึงการพึ่งพาสินค้าเกษตรที่ผลิตภายในประเทศให้สอดคล้องกับการใช้ในประเทศที่มีความสมดุล พบว่า ไทยมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว และ อ้อย (สำหรับผลิตน้ำตาล) กลุ่มไขมัน เช่น ปาล์มน้ำมัน กลุ่มโปรตีน เช่น เนื้อไก่ เนื้อสุกร และกุ้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีบางกลุ่มสินค้าที่มีค่า SSR ต่ำ ซึ่งหมายถึงการผลิตสินค้าเกษตรที่ไม่เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง และโคเนื้อ เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้มีปริมาณเพียงพอ พัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตรเพื่อสร้างรายได้แก่เกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้สนับสนุนการดำเนินโครงการที่สามารถดำเนินการได้ทันทีและเห็นผลในระยะสั้น (Quick win) ผ่านการดำเนินโครงการโคบาลบูรพา ซึ่งเป็นการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมโคเนื้อครบวงจร สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกและเพิ่มการผลิตเนื้อโคเพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ รวมถึงโครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ พันธุ์ กข 43 แบบครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และส่งเสริมให้เป็นสินค้าตลาดเฉพาะ (Niche Market) เป็นต้น ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการแล้ว ทั้งนี้ เมื่อกรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ฉบับที่ 2 ปี ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้นำกรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวมาใช้เป็นกรอบแนวทางในการกำหนดแนวทางดำเนินงานด้านความมั่นคงอาหารในช่วงระยะ 20 ปี ควบคู่และสอดคล้องกับการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการเกษตรระยะ 20 ปีต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4
๑๖:๐๘ DITP GIT ปลื้ม!!! งาน Bangkok Gems ครั้งที่ 69ประสบความสำเร็จล้นหลาม ผลจากความเข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียวของภาครัฐ-เอกชนร่วมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก
๑๖:๔๓ ผถห. SISB อนุมัติจ่ายปันผลปี 66 อัตรา 0.31 บ./หุ้น
๑๖:๓๘ วว. ให้บริการทดสอบของอัตราส่วนไอโซโทปของธาตุ ด้วยเครื่องไอโซโทปเรโชแมสสเปคโตรเมตรี
๑๖:๑๘ Open Banking ช่วยสร้างคุณค่าบริการทางการเงิน: ทิศทางธุรกิจของภาคธนาคารและสถาบันการเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
๑๖:๒๑ NPS จิตอาสาร่วมปรับภูมิทัศน์ โครงการสร้างความสามัคคีทำความดีเพื่อแผ่นดิน
๑๖:๐๗ NPS ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัดเทศบาล ต.เขาหินซ้อน