จากเป้าหมายในการดำเนินงานระยะ 20 ปี อ.อ.ป. ดำเนินการส่งเสริมเกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจ 2 ประเภท ได้แก่ ไม้โตเร็ว เป็นไม้ที่มีอายุรอบตัดฟันน้อยกว่า 10 ปี เช่น กระถินเทพา กระถินณรงค์ โดยจะต้องปลูกไม่น้อยกว่า 267 ต้น/ไร่ และไม้โตช้า ต้องมีอายุรอบตัดฟันมากกว่า 10 ปี เช่น สัก ประดู่ป่า ยางนา ตะเคียน ปลูก 100 ต้น/ไร่ ซึ่งเกษตรกรสามารถ ปลูกเป็นแปลง ปลูกบนคันนา ขอบแปลง ปลูกแทรก หรือปลูกเสริมในพื้นที่ทำการเกษตรในรูปแบบต่างๆ ได้ ซึ่งการคัดเลือกชนิดไม้สำหรับปลูกนั้น อ.อ.ป. จะพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ในแต่ละภาค และความประสงค์ของเกษตรกรเป็นหลัก
สำหรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเงินลงทุนในการปลูกและบำรุงรักษา รัฐบาลจะให้การสนับสนุนเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยไม้โตเร็วได้รับการสนับสนุนในอัตรา 3,500.- บาท (ปีแรก 2,500.- บาท ปีที่ 2 และ3 ปีละ 500.- บาท) และไม้โตช้าได้รับการสนับสนุนในอัตรา 5,940.- บาท (ปีแรก 3,900.- บาท ปีที่ 2 และ 3 ปีละ 1,020.- บาท)
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว อ.อ.ป. ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 7.8650 ล้านบาท ในการส่งเสริมเกษตรกรปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่สวนป่า 8 จังหวัดทั่วประเทศ พื้นที่ 2,950 ไร่ สามารถทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกไม้เศรษฐกิจ
ผอ.ออป. กล่าวต่อไปอีกว่า ในปี 2561 นี้ เกษตรกรได้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ 2,153 ราย ในพื้นที่ 39 จังหวัดทั่วประเทศ เบื้องต้น อ.อ.ป. ได้กำหนดแผนดำเนินการกิจกรรม "ส่งเสริมเกษตรกรปลูกบำรุงไม้เศรษฐกิจในที่ดินที่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย" โดยการเพิ่มพื้นที่ดำเนินการจำนวน 22,000 ไร่ และรัฐบาลได้สนับสนุนเงินในการลงทุน 59.4570 ล้านบาท ในขณะนี้ อ.อ.ป. ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดเตรียมพื้นที่ เตรียมกล้าไม้ และวางแนวการปลูกสำหรับเกษตรกรแล้ว
นอกจากนี้ อ.อ.ป. มีเป้าหมายในการส่งเสริมเกษตรกรปลูกไม้บำรุงไม้เศรษฐกิจในปี 2562 ในพื้นที่ 24,130 ไร่ เป็นไม้โตช้า 4,780 ไร่ และไม้โตเร็ว 19,350 ไร่ และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากเกษตรกรและราษฎรมาเข้าร่วมโครงการเช่น 2 ปีที่ผ่านมา
ท้ายนี้ ผอ.ออป. ยังกล่าวอีกว่า หากกิจกรรม "ส่งเสริมเกษตรกรปลูกบำรุงไม้เศรษฐกิจในที่ดินที่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย" ดำเนินการครบตามแผนงานและสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ จะทำให้เกษตรกรหรือราษฎรในท้องถิ่นมีอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมและการจำหน่ายไม้โตเร็ว ประมาณ 28,000.- บาท/ราย/ปี และไม้โตช้า 66,000.- บาท/ราย/ปี อีกทั้งยังสามารถลดการบุกรุกพื้นที่ของรัฐ และลดการตัดไม้ทำลายป่าธรรมชาติ ช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าเศรษฐกิจให้กับประเทศ และที่สำคัญกิจกรรมฯ นี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรหรือราษฎรตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป