ผศ.ดร.นิวัต กลิ่นงาม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ระดับชาติ ครั้งที่ 1 ภายใต้ชื่อ "มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ : พลังปัญญาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ มรภ.สงขลา เมื่อวันที่ 20-21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า การขับเคลื่อนและพัฒนาสังคมเพื่อความยั่งยืนด้วยพลังปัญญาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น การที่นักวิจัย นักวิชาการ และปราชญ์ทั้งหลายมาร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และประสบการณ์ จึงเป็นสิ่งที่สมควรได้รับการยกย่องสรรเสริญ
ผศ.ดร.นิวัต กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมคณะมนุษยศาสตร์ฯ ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น และต้องขอขอบคุณ ศ.ดร.บุษบา กนกศิลปะธรรม อาจารย์ภาควิชาภาษาอังกฤษ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มรภ.นครศรีธรรมราช มรภ.ยะลา มรส. (มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี) และ มรภ.ภูเก็ต ที่มาร่วมงานวิชาการในครั้งนี้ รวมถึง ศ.ดร.นารีมะห์ ซามัต คณบดีมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยซายน์ ประเทศมาเลเซีย ที่เดินทางมาลงนามความร่วมมือ (MOU) จุดประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมด้านงานวิจัย การเรียนการสอน หลักสูตร หรือกิจกรรมทางวิชาการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นระหว่างสองสถาบัน
ด้าน ผศ.นาถนเรศ อาคาสุวรรณ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรภ.สงขลา กล่าวว่า เวทีนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติที่จัดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ นักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ สามารถนำผลงานวิจัยและความรู้ที่ได้จากการประชุมวิชาการไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและประเทศอย่างยั่งยืน นับเป็นโอกาสพิเศษที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อการศึกษาที่มีคุณภาพในอนาคต โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุม แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ ดร.รัชชพงษ์ ชัชวาลย์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรภ.สงขลา กล่าวบ้างว่า ภายในงานโดยเฉพาะบริเวณเวทีตกแต่งด้วยต้นกระจูด ซึ่งเป็นพืชประจำถิ่นที่ ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา เนื่องจากทางคณะฯ ต้องการสร้างรายได้ให้ชุมชน ที่สำคัญ การจัดงานเน้นความพอเพียงและประหยัด โดยใช้งบประมาณเพียง 1,500 บาท ในการจัดซื้อกระจูดมาตกแต่งสถานที่ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบของปะการัง ประดับประดาให้งานออกมามีคุณค่า เนื่องจาก จ.สงขลา มีพื้นที่ติดทะเล จึงอยากสะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ท้องทะเล
"ผมมีความพอใจในการจัดงานครั้งนี้มาก เพราะเป็นการทำงานร่วมกันของคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ที่ร่วมกันคิดร่วมกันทำ และร่วมกันภาคภูมิใจ เราแบ่งงานกันทำตามความถนัดของแต่ละคน ซึ่งทุกคนรู้บทบาทหน้าที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี ใส่ใจในรายละเอียดของงาน จนทำให้งานออกมาเรียบร้อยลงตัว แสดงให้เห็นถึงพลังการทำงานร่วมกันเป็นทีม งานนี้จึงเป็นงานที่ช่วยร้อยรวมพลังของพวกเราชาวมนุษย์มด ซึ่งคณะมนุษยศาสตร์ฯ กำหนดให้มีอัตลักษณ์ของมด ที่มีพลังเมื่อทำงานร่วมกันเป็นทีม จึงเรียกว่ามนุษย์มด ขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่ต่างร่วมมือกันแข็งขัน ส่งพลังงานบวกในการทำงานให้แก่กัน จนทำให้ผู้เข้าร่วมงานรับรู้ถึงความสุขและความภาคภูมิใจของพวกเรา" รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ กล่าว