ไข 6 ข้อสงสัย กับประโยชน์ – โทษ ที่คอกาแฟควรรู้

ศุกร์ ๐๗ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๐:๑๓
เครื่องดื่มยอดนิยมที่มักมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลดีหรือผลเสีย หลังจากรับประทานไปแล้วมากที่สุดรายการหนึ่งก็คือ "กาแฟ" เพราะนอกจากสามารถหาดื่มได้ง่ายและเป็นเครื่องดื่มที่ปรุงแต่งรสชาติได้หลากหลายตามใจผู้บริโภคแล้ว การดื่มกาแฟยังกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย จึงทำให้กาแฟได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก ส่วนประกอบของ "กาแฟ" ที่มีผลต่อสุขภาพคือ "คาเฟอีน" และ "สารต้านอนุมูลอิสระ" ซึ่งเป็นสารที่คอยปกป้องเซลล์ในร่างกายของเราให้ปลอดภัยจากสารพิษ หรือการอักเสบ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนี้มักจะอยู่ในกาแฟชนิด "อาราบิก้า" แบบที่ไม่ได้กรองกากกาแฟ ส่วนคาเฟอีนนั้นพบได้ในกาแฟทุกรูปแบบ ดังนั้นมาไขข้อสงสัยจาก "กาแฟ" ในแง่มุมของผลต่อสุขภาพให้มากขึ้น จากข้อมูลดีๆ โดย ทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ได้ดังนี้

1.การดื่มกาแฟช่วยให้เราอายุยืนขึ้นจริงหรือไม่?

มีงานวิจัยตีพิมพ์ใน Annals of Internal Medicine แนะนำว่า การดื่มกาแฟ 3 ถ้วยต่อวัน อาจสามารถยืดอายุของเราให้ยาวขึ้นได้ เนื่องจากพบว่ากลุ่มที่ดื่มกาแฟเช่นนี้นั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรคหัวใจน้อยลง โดยการศึกษานี้รวบรวมกลุ่มผู้เข้าร่วมงานวิจัยได้ถึง 500,000 คนจาก 10 ประเทศในทวีปยุโรป ยาวนานถึง 16 ปี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ในงานวิจัยนี้ไม่ได้แยกแยะผู้ป่วยตามแนวทางการใช้ชีวิตประจำวันและเศรษฐานะทางสังคม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลผิดพลาดได้ นอกจากนี้ งานวิจัยยังตัดผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหลายอย่างออกไปด้วย จึงทำให้ผู้เข้าร่วมวิจัยส่วนใหญ่มักจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่แล้วนั่นเอง

2.การดื่มกาแฟช่วยเพิ่มพลังและความสดชื่นให้เราได้จริงหรือไม่?

กาแฟช่วยให้ผู้ดื่มหลายคนรู้สึกไม่เหนื่อยล้าและสดชื่นมากขึ้น อันเนื่องมาจากสารคาเฟอีนนั่นเอง เมื่อสารคาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดและสมองในขนาดที่เหมาะสม จะออกฤทธิ์ในการกระตุ้นเซลล์ประสาทให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านความจำ อารมณ์ และการเรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกจากนี้ มีบางงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟในขนาดที่เหมาะสมก่อนออกกำลังกาย จะช่วยให้ออกกำลังกายได้ดีและนานขึ้นถึงร้อยละ 11-12 เลยทีเดียว

3.การดื่มกาแฟลดความอ้วนได้หรือไม่?

มีงานวิจัยพบว่า สารคาเฟอีนในกาแฟนั้นสามารถเพิ่มอัตราการเผาผลาญสารเคมีในร่างกายได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหมายความว่ากาแฟนั้นน่าจะสามารถช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ จึงอาจนำไปสู่การใช้การดื่มกาแฟในการลดความอ้วนได้ แต่ทั้งนี้ยังต้องรอผลสรุปจากงานวิจัยอื่นๆ เพิ่มเติม

4.การดื่มกาแฟมีผลอย่างไรต่อโรคในระบบประสาท?

มีหลายงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟสามารถช่วยปกป้องเราจากโรคที่เกิดจากการเสื่อมถอยของระบบประสาท ยกตัวอย่างเช่น โรคความจำเสื่อมและอัลไซเมอร์ โดยงานวิจัยเหล่านี้ได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่อง มีการศึกษาที่น่าสนใจในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาวเอเชียเหมือนกับบ้านเราพบว่า ในคนญี่ปุ่นกว่า 8,000 คน คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ พบการเกิดโรคพาร์กินสันน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 5 เท่า โดยมีการเก็บข้อมูลนานถึง 30 ปี แต่ข้อเท็จจริงนี้ใช้ได้กับผู้ชาย เนื่องจากฮอร์โมนเพศในผู้หญิง (เอสโตรเจน) จะไปแย่งกันเกิดปฏิกิริยากับคาเฟอีน หรือสตรีวัยทองที่กลับไปรับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจน ก็จะพบว่าเกิดเป็นโรคพาร์กินสันมากกว่าคนที่ไม่ได้รับประทานฮอร์โมนนี้ ในทางการแพทย์สันนิษฐานว่า คาเฟอีนจะไปทำให้สารสื่อประสาท โดปามีน ถูกขนส่งไปออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น

5.การดื่มกาแฟลดการเกิดโรคเบาหวานได้จริงหรือไม่?

มีงานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟทำให้มีโอกาสการเกิดโรคเบาหวานลดลง โดยพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 6-7 ถ้วยต่อวัน พบโรคเบาหวานน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่ม โดยเชื่อว่าสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟ เป็นตัวทำให้การดื้ออินซูลินลดลง ทำให้ไม่ค่อยพบโรคเบาหวาน และสารต้านอนุมูลอิสระนั้นคือ phenolic chlorogenic acid

6.เราดื่มกาแฟได้มากเท่าไหร่และกาแฟมีอันตรายหรือความเสี่ยงใดๆ ต่อสุขภาพหรือไม่?

ยังไม่มีข้อกำหนดหรือข้อห้ามใดๆ สำหรับปริมาณกาแฟที่ควรดื่มสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์นั้นควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนไม่ให้เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะมีรายงานว่ามีการแท้งมากกว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ดื่ม นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าลูกที่เกิดมีน้ำหนักแรกคลอดน้อยและตัวเล็กกว่าอายุครรภ์อีกด้วย สารคาเฟอีนมีฤทธิ์คล้ายยาขับปัสสาวะ จึงอาจทำให้ผู้ดื่มกาแฟปัสสาวะมากขึ้นและเร็วขึ้น อีกทั้งมีรายงานว่าในผู้ที่ดื่มกาแฟมากๆ บางครั้งอาจเกิดอาการหน้ามืด เป็นลม มือสั่น และนอนไม่หลับได้ หากเกิดอาการเช่นนี้บ่อยๆ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ นอกจากนี้ กาแฟมักได้รับการปรุงแต่งอย่างหลากหลาย อาจมีการเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม นม และอื่นๆ ซึ่งอาจมีผลในการเพิ่มแคลอรี่ส่วนเกินให้ผู้ดื่มได้มาก ผู้ดื่มที่มีโรคประจำตัวที่อาจได้รับผลกระทบควรคำนึงถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยเช่นกัน

เพียงเท่านี้ คอกาแฟก็สามารถกำหนดปริมาณการดื่มในแต่ละวันได้ง่ายๆ ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพดี หรือสามารถขอคำปรึกษาจากทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด (โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (จังหวัดสมุทรปราการ) โรงพยาบาลพริ้นซ์ ปากน้ำโพ (จังหวัดนครสวรรค์) โรงพยาบาลพิษณุเวช (จังหวัดพิษณุโลก) และโรงพยาบาลสหเวช (จังหวัดพิจิตร)) และสามารถติดตามสาระดีๆ เกี่ยวกับการแพทย์ได้ที่ www.princhealth.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?