ปี 62 ฝายคลองท่ากระจาย จ.สุราษฎร์ธานีแล้วเสร็จ พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ 2 รัชกาล

อังคาร ๐๒ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๒๑
"พสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ"

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการฝายคลองท่ากระจาย ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยทรงห่วงใยความเดือดร้อนของราษฎรตำบลคลองพา อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3,518 ครัวเรือน ราษฎร 8,134 คน พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 82,056 ไร่ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

เดิมทีตำบลคลองพา อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสภาพพื้นที่เป็น 2 ลักษณะ ทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ราบลุ่มและมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ สภาพดินส่วนใหญ่เป็นดินร่วนปนดินเหนียวเหมาะแก่การทำนา ทำสวน และเลี้ยงสัตว์ส่วนทิศตะวันตกเป็นพื้นที่ราบสูงลักษณะป่าเขา สภาพพื้นที่มีปัญหาด้านการพังทลายของหน้าดินในช่วงฤดูฝน เหมาะแก่การทำสวน เช่น สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีถนนสายเพชรเกษม 41 เป็นแนวแบ่งเขต

ประชากรหมู่ที่ 1 ตำบลคลองพา มีจำนวน 270 ครัวเรือน ราษฎร 1,080 คน และหมู่ที่ 3 ตำบลสมอทอง จำนวน 311 ครัวเรือน ราษฎร 1,244 คน ในเขตพื้นที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ผ่านมาราษฎรในพื้นที่จะอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติคือคลองท่ากระจาย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญในการผลิตน้ำประปาให้แก่ชุมชน แต่เนื่องจากพื้นที่บางส่วนเป็นที่ราบสูงและภูเขาสูง จึงประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง

โครงการฝายคลองท่ากระจายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ตามที่ราษฎรหมู่ที่ 1 ตำบลคลองพา อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างฝายชนิดกล่องหิน สูง 3 เมตร ยาวประมาณ 45 เมตร พร้อมทั้งอาคารป้องกันตลิ่งฝั่งซ้ายและขวาชนิดกล่องหิน สูงประมาณ 5 เมตรยาวด้านละ 50 เมตร เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 1 ตำบลคลองพา จำนวน 270 ครัวเรือน ราษฎร 1,080 คน และหมู่ที่ 3 ตำบลสมอทอง จำนวน 311 ครัวเรือน ราษฎร 1,244 คน ให้มีน้ำสำหรับการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร ประมาณ 700 ไร่ ได้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี อีกทั้งสามารถระบายช่วงน้ำหลากได้มากกว่า 569.68 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกด้วย

นายประมวล ทิพพิเศษ ราษฎรตำบลคลองพา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่สละพื้นที่ทำกินบางส่วนเพื่อสร้างฝายคลองท่ากระจาย เล่าว่า "...ในอนาคตลำคลองจะไม่มีน้ำเนื่องจากระยะหลังเมื่อเข้าฤดูแล้งคลองจะแห้งขอดไม่มีน้ำไหลผ่านเช่นอดีตที่ผ่านมา เพราะลำคลองกว้างประมาณ 1 วากว่าๆ ลึกประมาณครึ่งเมตร สภาพน้ำขุ่นไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการอุปโภคได้ ซึ่งหากไม่มีการสร้างฝายเพื่อเก็บกักน้ำและยกระดับน้ำขึ้นมา ราษฎรในพื้นที่จะต้องเดือดร้อนอย่างมาก และลำคลองแห่งนี้ก็จะกลายเป็นตำนานว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นคลองเท่านั้น ราษฎรตำบลคลองพาจึงได้ถวายฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ท่าน..."

"...ทุกคนต่างดีใจอย่างที่สุด สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระองค์พระราชทาน

ความช่วยเหลือมาสู่ราษฎรในครั้งนี้ ด้วยการรับโครงการฝายคลองท่ากระจาย ตำบลคลองพา ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ..."

ส่วนนางปัทมาภรณ์ สกุลทอง ราษฎรอีกหนึ่งรายที่ได้บริจาคพื้นที่ทำกินบางส่วนบริเวณฝั่งตำบลสมอทอง ซึ่งเป็นอีกฝั่งหนึ่งของคลองท่ากระจาย เล่าว่า ประชาชนในพื้นที่ทุกคนต่างตื้นตันเป็นอย่างมากที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน ได้พระราชทานโครงการก่อสร้างฝายแห่งนี้ เพื่อเก็บกักและยกระดับน้ำในคลองท่ากระจายให้สูงขึ้น

"ปัจจุบันในพื้นที่นี้มีกลุ่มผู้ใช้น้ำอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนต่างพร้อมใจกันที่จะช่วยกันดูแลรักษาฝายแห่งนี้ให้มีความสมบูรณ์ต่อเนื่องอย่างดีที่สุด และจะร่วมกันบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน"

นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เล่าให้ฟังในระหว่างติดตามความก้าวหน้าและตรวจเยี่ยมพบปะราษฎรในบริเวณพื้นที่ที่จะก่อสร้างโครงการฯ ว่า... โครงการก่อสร้างฝายคลองท่ากระจาย ตำบลคลองพา ถือเป็นโครงการ 2 รัชกาล คือประชาชนและผู้นำในพื้นที่ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาเพื่อขอรับพระราชทานความช่วยเหลือ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่และความเดือดร้อนของราษฎร รวมถึงความเป็นไปได้และประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อความทรงทราบถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระเมตตา และได้พระราชทาน โดยทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่อจากในหลวงรัชกาลที่ 9

"เป็นโครงการที่สามารถกล่าวได้ว่าไม่มีปัญหาและอุปสรรคอะไรเลย เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต่างให้ความร่วมมือดี และมีประชาชน 2 ครอบครัว ได้อุทิศที่ดินซึ่งครอบครองโดยกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายถูกต้องทุกประการได้ยกที่ดินเพื่อใช้ในการก่อสร้างฝายให้กับทางโครงการฯ ก็ถือว่าเป็นความเสียสละที่น่ายกย่องชมเชยเป็นอย่างยิ่งก็คาดว่าไม่เกิน 1 ปี นับจากนี้ โครงการก่อสร้างฝายคลองท่ากระจาย ตำบลคลองพา ก็จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ เอื้อประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตามเป้าหมายทุกประการ"

นอกจากนี้ ราษฎรยังเตรียมความพร้อมโดยการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำในชื่อ "กลุ่มบริหารกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านสมอทองบ้านชายท่าร่วมพัฒนา" มีจำนวนสมาชิกรวม 45 คน เพื่อบริหารและจัดสรรน้ำให้เพียงพอ เกิดความยุติธรรมในการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนร่วมกันบำรุงรักษาฝายแห่งนี้ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการให้บังเกิดประโยชน์กับชุมชนของตนเองต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4