ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญขอให้ปรับรูปแบบการทำงานให้เป็นข้าราชการยุคใหม่คือการทำงานเชิงรุก ทำงานประสานทุกหน่วยงาน มีการวางแผนการทำงานตลอดทั้งปี ปฏิทินงานเทศกาลต่างๆ เพื่อเร่งประสานงานและบูรณาการรองรับงานทุกกรมในสังกัด รวมไปถึงกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยกระดับวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นงานเทศกาล ประเพณีระดับนานาชาติ เช่น เทศกาลลอยกระทง และสวดมนต์ข้ามปี รู้จักสร้างเครือข่าย ทั้งเครือข่ายศิลปิน สถานศึกษา ประชาชน ภาครัฐ เอกชน ผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมมาร่วมขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมของท้องถิ่น ขอความร่วมมือจากศิลปินพื้นบ้านมาจัดแสดงงานศิลปะในถนนสายวัฒนธรรมของแต่ละจังหวัด ค้นหาอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละชุมชนเพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นผลผลิตทางวัฒนธรรม (Cultural Product of Thailand : CPOT) เป็นต้น
นายกฤษศญพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เกิดองค์กรชุมชน อำเภอ จังหวัดคุณธรรม ภายใต้แผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ.2559-2564) จะต้องทำให้เกิดขึ้นทุกพื้นที่ จากนั้นรายงานเข้ามาส่วนกลาง เพื่อนำเสนอรายงานต่อคณะอนุกรรมการคัดเลือกชุมชน องค์กร หน่วยงานและจังหวัดคุณธรรมต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาขอชื่นชมวัฒนธรรมจังหวัดหลายจังหวัดที่สามารถทำงานวัฒนธรรมแบบเชิงรุกได้เป็นอย่างดี เป็นตัวแทนของ วธ. ที่ทำงานรองรับภารกิจของทุกกรมไม่ว่าจะเป็นกรมศิลปากร กรมการศาสนา สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย พร้อมสร้างเครือข่าย ขยายพื้นที่ ประสานสื่อมวลชนท้องถิ่นในการสร้างการรับรู้งานวัฒนธรรมสู่ประชาชน โดยไม่ได้คำนึงถึงงบประมาณหรือข้อสั่งการจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียว ถือเป็นการทำงานราชการรูปแบบใหม่เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการประชุม ปลัด วธ. ได้นำเสนอเนื้อหารายการ ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้วัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศเห็นตัวอย่างการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม โครงการ กิจกรรมในท้องถิ่นให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลอีกด้วย