นาย จอห์นนี่ โชว, ประธานคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดโลก "ธุรกิจโลจิสติกส์" นับว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีธุรกิจการขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปี โดยเฉพาะการที่ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างก้าวกระโดดส่งผลให้ธุรกิจการจัดส่งสินค้าเติบโตตามไปด้วย เบสท์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการซัพพลายเชนอัจฉริยะแบบ One-stop Delivery ครอบคลุมทั่วโลก จึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และได้เปิดให้บริการภายใต้แบรนด์ Best Express ในประเทศไทย เนื่องจากไทยมีศักยภาพการเติบโตที่รวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่คาดว่าในปี 2561 นี้จะมีมูลค่าสูงถึง 3.058 ล้านล้านบาท เติบโต 8% อีกทั้งระบบคมนาคมของไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อของธุรกิจขนส่งของกลุ่มประเทศอาเซียน
เบสท์ เอ็กซ์เพรส (Best Express) เป็นธุรกิจในเครือ เบสท์ กรุ๊ป ก่อตั้งโดย Mr. Johnny Chou อดีตรองประธาน Google ประเทศจีนด้วยทุนจดทะเบียนกว่า 183 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯปัจจุบัน ได้รับการการันตีความสำเร็จด้วยรางวัลต่างๆ มากมาย อาทิ รางวัลระบบจัดการคลังสินค้าอันดับ 1 ของจีน, ผู้ดำเนินธุรกิจการขนส่งโลจิสติกส์ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของจีน เป็นต้น ขณะเดียวกัน เบสท์ กรุ๊ป ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกา หรือ NYSE เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ร่วมลงทุนกว่า 20 บริษัทชั้นนำในจีน ทั้งผู้นำด้าน อีคอมเมิร์ซ อย่าง อาลีบาบา (Alibaba), บริษัทขนส่งโลจิสติกส์รายใหญ่อย่าง Cainiao และบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อย่าง Foxconn เป็นต้น
ขณะที่ธุรกิจขนส่งภายใต้แบรนด์ เบสท์ เอ็กซ์เพรส (Best Express) ก็มีจุดให้บริการขนส่งเอ็กซ์เพรสในจีนมากกว่า 25,000 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศทุกมณฑลของจีน โดยมีคลังสินค้าแบบคลาวน์มากกว่า 330 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 170 เมือง มีพนักงานเต็มเวลากว่า 10,000 คน มีศูนย์ปฏิบัติการมากกว่า 100 แห่ง มีพื้นที่กระจายสินค้าและคลังมากกว่า 1 ล้านตารางเมตร ล่าสุด เบสท์ กรุ๊ปมีแผนที่จะเปิดรับตัวแทนในประเทศไทยมาร่วมสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์ครอบคลุมทั่วพื้นที่ในไทย โดยจะมุ่งเน้นให้บริการคลังสินค้าและกระจายรูปแบบซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรการขนส่งและการกระจายสินค้าให้แก่องค์กรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะในอาเซียน ทั้งยังมุ่งหวังพัฒนาธุรกิจนำเข้า-ส่งออกของประเทศไทยให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โดย เบสท์ เอ็กซ์เพลส Best Express จะทำการเปิดรับตัวแทนในไทยกว่า 80 ราย มาร่วมสร้างเครือข่ายซัพพลายเชนอัจฉริยะเชื่อมต่อไทยจีนและเครือข่ายโลจิสติกส์สมัยใหม่ทั่วโลก โดย ตัวแทนที่ได้ร่วมงานจะได้รับสิทธิประโยชน์ ได้แก่ โอกาสในการร่วมงานกับเบสท์ กรุ๊ป บริษัทขนส่งชั้นนำของจีน เพื่อพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ในไทยและอาเซียน ได้รับการสนับสนุนด้านระบบขนส่งโลจิสติกส์และบริการคลังสินค้าซึ่งครอบคลุมทั่วไทย ได้รับการฝึกอบรมด้านการจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งโลจิสติกส์จากทางบริษัท ได้สิทธิ์ในการใช้ทรัพยากรด้านวิจัยและฐานข้อมูล Big Data ของเบสท์ กรุ๊ป ซึ่งที่ลงทุนแฟรนไชน์กับเบสท์ มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะการรับและกระจายสินค้าในขั้นสุดท้าย (Last Mile Delivery) และเบสท์ กรุ๊ป จะดูแลในระบบต่างๆ ที่เกี่ยวกับโลจิสติกส์ ตั้งแต่จัดการศูนย์กระจายสินค้า รถขนส่ง (Line-haul) ระบบจัดการเครือข่ายเน็ตเวิร์ค ซอฟต์แวร์ระบบจัดการและแผนพัฒนาโดยรวม เพื่อให้การบริการงานการขนส่งมีประสิทธิภาพสูงสุด
"ร่วมเป็นแฟรนไชส์กับเบสท์ โลจิสติกส์ เข้าร่วมการพัฒนาซัพพลายเชนอัจฉริยะกับบริษัทด้านการขนส่งแนวหน้าระดับโลก เป็นส่วนหนึ่งของระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างระบบการขนส่งเชื่อมต่อไทย – จีนและทั่วโลก" สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.best-inc.com/en