กรมส่งเสริมสหกรณ์ประชุมตัวแทนสหกรณ์เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ใช้กลไกสหกรณ์จับมือเอกชนสานพลังประชารัฐสนับสนุนช่องทางตลาด

พฤหัส ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๓:๔๘
กรมส่งเสริมสหกรณ์ประชุมตัวแทนสหกรณ์ 250 แห่งในพื้นที่ 33 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ภายหลัง 5 หน่วยงานระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ชี้แจงมาตรการจูงใจเพื่อสำรวจเกษตรกรสมัครใจเข้าร่วมโครงการ พร้อมเชิญ กรมส่งเสริมการเกษตรและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรร่วมชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการและการขอรับสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกร ชี้กลไกสหกรณ์จะช่วยขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ใช้ตลาดนำการผลิตและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร

นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการเปิดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมคอนเวนชั่นเซนเตอร์ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนโยบายการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายหลังจากที่ 5 หน่วยงาน ทั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทานและธกส. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดลงพื้นที่เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินโครงการและมาตรการ จูงใจเพื่อเชิญชวนเกษตรกรทั้งที่อยู่ในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตาม Zoning By Agri-Map จำนวน 33 จังหวัด ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เบื้องต้นมีเกษตรกรให้ความสนใจ พื้นที่รวมประมาณ 850,000 ไร่ และใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การรวบรวมผลผลิตและประสานภาคเอกชนกำหนดราคารับซื้อล่วงหน้าและเปิดจุดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรถึงในพื้นที่

เบื้องต้น มีสหกรณ์การเกษตรเข้าร่วมโครงการ 250 แห่ง ซึ่งโครงการนี้จะใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาขับเคลื่อนตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยใช้หลักการตลาดนำการผลิต เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร โดยสหกรณ์การเกษตรจะทำหน้าที่บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิต ตั้งแต่การประสานหน่วยงานเข้ามาอบรมถ่ายทอดความรู้ การปลูกข้าวโพดให้กับเกษตรกร การจัดหาเมล็ดพันธุ์คุณภาพและจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรมาบริการเกษตรกร การรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งจะเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกในเดือนพฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีมาตรการในการจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ โดยสนับสนุนสินเชื่อจากธกส.ให้เกษตรกรกู้ยืม ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลา 6 เดือน เพื่อเป็นค่าปัจจัยการผลิตและเตรียมแปลง ไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ และสนับสนุนสินเชื่อให้สหกรณ์และสถาบันเกษตรกรกู้ยืมเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนรวบรวมข้าวโพดจากเกษตรกร ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.1 พร้อมทั้งสนับสนุนเบี้ยประกันภัย 65 บาทต่อไร่ เมื่อได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ น้ำท่วม หรือถูกแมลงศัตรูพืชทำลาย จะได้รับเงินชดเชย ไร่ละ 1,500 บาท

การประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาแก่ตัวแทนสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ มีผู้แทนจากกรมส่งเสริมการเกษตรได้มาร่วมนำเสนอทิศทางการดำเนินโครงการ สานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา และผู้แทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มานำเสนอถึงขั้นตอนในการขอรับสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการปลุกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรรายย่อยทั่วไปสามารถแจงความประสงค์ขอกู้เงินจากธกส.ได้โดยตรง และเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์สามารถแจ้งความประสงค์ขอกู้เงินธกส.ผ่านทางสหกรณ์ที่ตนเองสังกัดอยู่ นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด จังหวัดพิษณุโลก และตัวแทนสหกรณ์การเกษตรเมืองตรอน จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องในการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการผลิตและการตลาด หลังจากที่ได้เริ่มโครงการไปก่อนหน้านี้แล้ว คาดว่าการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาจะให้ผลตอบแทนดีกว่าการปลูกข้าว ซึ่งภายหลังฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกแล้วจะไถกลบตอซังปรับปรุงดินเตรียมปลูกข้าวโพดในฤดูต่อไป

"การดำเนินโครงการส่งเสริมปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา เป็นนโยบายสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งหวังที่จะสร้างสมดุลของปริมาณผลผลิตข้าวให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง แล้วหันมาปลูกพืชทดแทนที่มีศักยภาพและสามารถบริหารจัดการด้านการตลาดได้ ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังมีปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ยังมีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์อีกจำนวนมาก และในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เชิญบริษัทเอกชน 13 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์มาหารือถึงเรื่องคุณภาพและราคาข้าวโพดที่จะรับซื้อจากเกษตรกร รวมถึงกำหนดจุดรับซื้อในพื้นที่ทั้ง 33 จังหวัด โดยจะมีการแบ่งจุดรับซื้อที่แน่นอนว่าบริษัทใดจะเข้าไปรับซื้อในพื้นที่ใด ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนภายในวันที่ 25 ตุลาคม นี้ และการเปิดจุดรับซื้อต้องเข้าถึงพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้เกษตรกรมีความสะดวกในการรวบรวมข้าวโพดมาขายได้ในทันทีที่มีการเก็บเกี่ยว และในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ได้เชิญตัวแทนสมาคมผู้ผลิตเมล็ดพันธ์ มาคุยถึงเงื่อนไขในการขายเมล็ดพันธ์ให้สหกรณ์เพื่อนำไปกระจายสู่เกษตรกร ทางบริษัทจะต้องส่งนักวิชาการเข้ามาช่วยดูแลและถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวโพดให้กับเกษตรกร ตั้งแต่แรกเริ่มไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ " อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว

สำหรับการกำหนดราคารับซื้อข้าวโพดสด ต้องไม่น้อยกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวโพดสดที่เกษตรกรรวบรวมขายให้เอกชนอยู่ที่กิโลกรัมละ 6.30 บาท ส่วนข้าวโพดแห้งความชื้นไม่เกิน 14.5 % ราคาอยู่ที่ 9.70 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นราคารับซื้อหน้าโรงงาน ทั้งนี้ การกำหนดราคาซื้อขายข้าวโพดจะต้องเป็นไปตามกลไกของตลาด แต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประกาศของกระทรวงพาณิชย์ และการดำเนินโครงการครั้งนี้ กลไกสหกรณ์จะมีส่วนสำคัญทำให้การขับเคลื่อนโยบายนี้ประสบผลสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายในการสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรได้ โดยสหกรณ์การเกษตรจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานความร่วมมือกับภาคแอกชนตามแนวทางประชารัฐ ในการเจรจากับภาคเอกชนในการทำสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้าตามราคาประกาศของกระทรวงพาณิชย์และอยู่ภายใต้พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาเกษตรพันธะสัญญา พ.ศ.2560 และกำหนดจุดรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจได้ว่าการปลูกข้าวโพดหลังนาจะมีตลาดรองรับที่แน่นอนและขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำและดูแลตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๑ ALLY ผนึก Mural ลงทุนซื้อหุ้นสมาคมมวยปล้ำสเปน หวังผลักดันมวยปล้ำสเปนขึ้นแท่นลีกหลักในยุโรปและลาตินอเมริกา
๑๖:๓๙ โอกาสจองซื้อหุ้นกู้บริษัทชั้นนำ ช.การช่าง เสนอขายช่วงวันที่ 25 - 29 เมษายน 2567 ชูผลตอบแทน 3.40 - 4.10% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือ A- ติดต่อผ่าน ธ.กรุงเทพ และ ธ.กรุงไทย
๑๖:๕๔ บางจากฯ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาเยาวชนในทักษะแห่งอนาคต ผ่านโครงการ SI Sphere: Sustainable Intelligence-based Society Sphere โดย UN Global Compact Network
๑๕:๑๓ เปิดไลน์อัพ 10 ศิลปินหน้าใหม่มาแรงแห่งปีจาก Spotify RADAR Thailand 2024
๑๕:๐๘ อาร์เอส กรุ๊ป เดินหน้ากลยุทธ์ Star Commerce ยกทัพศิลปิน-ดารา เป็นเจ้าของแบรนด์ และดันยอดขายด้วย Affiliate Marketing ประเดิมส่งศิลปินตัวแม่ ใบเตย อาร์สยาม
๑๕:๒๐ กสิกรไทยผนึกกำลังเจพีมอร์แกน เปิดตัวโปรเจกต์คารินา ดึงศักยภาพบล็อกเชน ลดระยะเวลาธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ
๑๕:๐๖ สเก็ตเชอร์ส จัดกิจกรรม SKECHERS PICKLEBALL WORKSHOP ส่งเสริมสุขภาพและขยายคอมมูนิตี้กีฬา Pickleball ในไทย
๑๕:๕๖ SHIELD จับมือแอสเซนด์ มันนี่ และ Money20/20 Asia จัดกิจกรรมระดมเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดี
๑๕:๔๓ 'ASW' เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ 4 คอนโดฯ ใหม่ ไตรมาส 2 ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และภูเก็ตมูลค่ารวมกว่า 6,600 ล้านบาท
๑๕:๔๑ โก โฮลเซลล์ สนับสนุนเกษตรกรไทย ปูพรมจำหน่ายผลไม้ฤดูกาล สดจากสวนส่งตรงถึงมือคุณ