ม.มหิดล ตระหนักถึงความปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กและเยาวชน เน้นยุทธศาสตร์เชิงรุก ปลูกฝังตั้งแต่ปฐมวัย

พฤหัส ๐๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๕:๐๑
มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กและเยาวชน ชูยุทธศาสตร์เชิงรุก มุ่งสร้างแหล่งเรียนรู้และปลูกฝังตั้งแต่วัยเยาว์ หวังลดอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน

จากข้อมูลสถิติของเว็บไซต์เวิลด์แอตลาส เกี่ยวกับประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุดในโลกปี พ.ศ. 2560 พบว่า ประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีอัตราผู้เสียชีวิต 36.2 รายต่อประชากรจำนวน 100,000 นอกจากนี้ จากรายงานตัวเลขเมื่อปี พ.ศ. 2559 จำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย มีจำนวนมากถึง 22,356 ราย หรือเฉลี่ยถึงวันละ 62 ราย หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 2-3 ราย โดยมีผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลจากกรณีรถชนประมาณ 1 แสนราย และกลายเป็นผู้พิการราว 6 หมื่นคนต่อปี

รศ. ดร.กิติกร จามรดุสิต รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า "ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้ตระหนักและให้ความสำคัญถึงการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการผลักดันกลยุทธ์เชิงป้องกันเพื่อให้มหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยปลอดภัยในระดับสากล ทางมหาวิทยาลัยจึงได้มุ่งเน้นการลงทุนทางด้านทรัพยากรมนุษย์ สนับสนุนและส่งเสริมการฝึกอบรมให้ความรู้ พร้อมทั้งการสร้างเสริมจิตสานึกและทัศนคติที่ถูกต้องด้านความปลอดภัยให้กับนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทุกระดับควบคู่ไปพร้อมกัน"

ล่าสุด มหาวิทยาลัยมหิดลได้สร้างเส้นทางเพื่อการเรียนรู้กฎจราจรและความปลอดภัย เรียกว่า บลูสตรีท (Blue Street) หรือ ถนนสีฟ้า เชื่อมไปยังสนามเด็กเล่นและสวนสาธารณะศาลายาพาร์ค ภายใต้การดูแลของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือน - 6 ปี และปลูกฝังพฤติกรรมด้านความปลอดภัย โดยบลูสตรีทนี้ มีป้ายสัญลักษณ์และเครื่องหมายจราจรตลอดเส้นทาง เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้กฎจราจรและความปลอดภัยในการใช้ถนนและทางเท้าอย่างถูกต้อง รวมถึงให้ผู้ใช้เส้นทางภายในมหาวิทยาลัยใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และคาดหวังว่าการปลูกฝังและให้คำแนะนำแบบผสมผสานเข้าสู่ชีวิตในรูปแบบนี้ จะสามารถทำให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับและเข้าใจเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตของตนเองและผู้อื่นได้อย่างยั่งยืน

โดยในหลายๆ ประเทศได้ประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนของตนมาแล้ว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น จะสอนให้นักเรียนอนุบาลเรียนรู้เครื่องหมายจราจร ผ่านนิทาน การระบายสี และการสวมบทบาทเป็นผู้เดินทาง ประเทศออสเตรเลีย ได้มีการเรียนการสอนนักเรียนในระดับประถมศึกษา โดยสอดแทรกเรื่องการจราจรและการใช้รถใช้ถนนผ่านการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เช่น การตัดสินใจในการข้ามถนน การวิเคราะห์ความเสี่ยงในฐานะผู้ขับขี่ ส่วน ประเทศอังกฤษ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาจะได้เรียนรู้ในเรื่องของความเสี่ยงและความประมาท มีการจำลองสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุให้เด็กวิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้นๆ เป็นต้น

"ในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนของเด็กและเยาวชน เราเห็นว่าหลายๆ ภาคส่วนยังไม่ได้ดำเนินงานในเรื่องนี้มากเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ประเด็นนี้จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลและปลูกฝังให้เด็กๆ ได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมตามแต่ละช่วงวัย โดยจะต้องจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยจากภัยอุบัติภัยและอุบัติเหตุต่างๆ ด้วยวิธีการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ" รศ. ดร.กิติกร กล่าวเพิ่มเติม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest