นายวิเชียร สุขสร้อย รองผู้อำนวยการด้านเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า NIA ได้ร่วมกับ ศอบต. ดำเนินโครงการ "การพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ SMEs/Startup ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้" เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นที่จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ด้วยการต่อยอดงานวิจัยและนวัตกรรมจากหน่วยงานต่างๆ เช่น องค์กรของภาครัฐ มหาวิทยาลัย ไปสู่ผู้ประกอบการ - วิสาหกิจชุมชน โดยมุ่งสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพและความยั่งยืนในแง่ของชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา สาธารณสุข การอำนวยความสะดวกสบาย ตลอดจนพัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการเดิมต้วยการเติมนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าและการบริการ
ผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ได้ส่งเสริมการตระหนักรู้และการสร้างนวัตกรรมด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การอบรมให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมในการขอรับทุนต่างๆจากแหล่งทุน การมอบทุนสนับสนุนโครงการนวัตกรรมที่มีความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธุรกิจ การให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง การจัดแสดงผลงานการจับคู่ธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งตลอดระยะเวลา กว่า 2 ปีที่ผ่านมานั้น (ปี 2559 – 2561) มีธุรกิจเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม รวมถึงสตาร์ทอัพให้ความสนใจในการเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 500 ราย ทั้งยังเกิดผลสำเร็จของการพัฒนาที่เห็นเป็นรูปธรรมโดยมีการเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพ และการนำนวัตกรรมไปใช้เพิ่มมูลค่าในธุรกิจ ได้แก่ โครงการ ฟินเดลิเวอรี่ : แพลตฟอร์มระบบซื้อ-ขายสินค้าและวัตถุดิบที่มีความสะดวกในเรื่องของเวลาและการเดินทาง โครงการพินซูก : ตลาดซื้อขายสินค้าฮาลาลออนไลน์ที่กระจายพื้นที่อยู่ในประเทศไทย แบบเสร็จสรรพ เบญจเมธา ผลิตภัณฑ์เซรามิกจากเนื้อดินท้องถิ่น ที่ผสมผสานนวัตกรรมและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมแดนใต้ และนัสรีน ผลิตภัณฑ์กือโป๊ะ ที่ปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบการผลิตกึ่งอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดระยะเวลาในการผลิต
นายวิเชียร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการดำเนินกิจกรรมในปีถัดไป NIA ได้จัดงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการ "การพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ SMEs/Startup ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้" ไว้ทั้งสิ้น 22.4 ล้านบาท ซึ่งมุ่งที่จะขยายผลนวัตกรรมเดิม รวมทั้งบูรณาการงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมาใช้รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาด และพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสำนักสนับสนุนการผลิตและธุรกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสล.) กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ (YES) จัดประชุมเพื่อบูรณาการแผนการขับเคลื่อนงานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ในปี 2562 ตามกรอบความร่วมมือ และรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยกำหนดแผนงานเดิมและเพิ่มเติมแผนงานใหม่ ได้แก่
- การพัฒนาโครงการ/ผู้ประกอบการ ด้วยการหาความต้องการของพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่จำเป็นและสอดคล้องกับสภาพปัญหา เช่น การจัดการภัยพิบัติ การจราจร การดูแลสุขภาพ ซึ่งจะต้องมีความแตกต่างกันไปใน แต่ละบริบทของพื้นที่ โดยแนวทางดังกล่าวยังเป็นการดึงดูดการลงทุนจากทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ต้องการขยายผลนวัตกรรมให้เกิดกระจายไปสู่ท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี
- พัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม หรือ Maker Space ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีความพร้อมสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ หรือระบบดิจิทัล รวมถึงอาจมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากรัฐและธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ (Big Brothers) มาคอยให้คำแนะนำหรือชี้แนะแนวทางการแก้ไขปัญหา
- มองการพัฒนานวัตกรรมให้นอกเหนือจากเรื่องอาหาร โดยมุ่งเป้าไปที่วัฒนธรรม (Culture Based) สุขภาพ และเกษตรกรรม ด้วยการใช้นวัตกรรมเป็นตัวเชื่อมคุณค่าและความเปลี่ยนแปลง และมีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น แพลตฟอร์มบริการการท่องเที่ยวโดยเฉพาะที่เชื่อมโยงกับกลุ่มสินค้าฮาลาล (Halal Tourism) การพัฒนายางพาราสู่สินค้าเพื่อสุขภาพ ปาล์มน้ำมันสู่พลังงานทดแทน บริการทางการเงิน เป็นต้น
- การสร้างเครือข่าย (Innovation Regional Connect) และการอบรมให้ความรู้ อาทิ การใช้บิ๊กดาต้าเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงในตลาดนวัตกรรม หรือพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการให้มีรูปแบบที่หลากหลาย ส่วนการสร้างเครือข่ายจะต้องดำเนินควบคู่ไปกับหน่วยงานคู่ขนาน เช่น สภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าไทย Startup Thailand League เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างครอบคลุมตามที่แต่ละองค์กรมีความเชี่ยวชาญ และสามารถต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังได้มีการนำเสนอการจัดงานมหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 2 การจัดตั้งสำนักงานนวัตกรรมฯ และการจัดทำย่านนวัตกรรมในกลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ Halal Tourism District เพื่อเชื่อมโยงนักท่องเที่ยว จากชายแดน เช่น กลันตัน ตรังกานู ให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าว พร้อมสรรหาพื้นที่ ที่มีศักยภาพ หรือความโดดเด่นเฉพาะตัวเพื่อดึงนักธุรกิจให้เข้ามาลงทุน
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-0175555 เว็บไซต์ http://www.nia.or.th