การแข่งขันเริ่มขึ้นในแต่ละประเภทการแข่งขัน ประกอบด้วย รำมวยตระกูลหยาง (ไม่จำกัดถ่วงท่า) รำมวย 24 ท่า 40 ท่า และ 42 ท่า รำกระบี่มาตรฐานการแข่งขัน 32 ท่า และ 42 ท่า รำพัดกงฟู ประเภทบุคคล และรำกระบี่ตระกูลหยาง นักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมีตั้งแต่อายุ 5 ปี - 71 ปีขึ้นไป ได้ประลองท่วงท่าการรำไท้เก๊กให้ถูกต้องตามหลักสำคัญ 10 ประการได้แก่ 1.ศีรษะตั้งตรง แขวนลอย 2.เก็บทรวงอก ยืดแผ่นหลัง 3.ผ่อนคลายเอว 4.แบ่งแยกเท้าเต็ม-ว่าง 5.จมไหล่ ถ่วงศอก 6.ใช้จิต ไม่ใช้แรง 7.บน-ล่างประสานสอดคล้อง 8.ในนอกประสานรวมเป็นหนึ่ง 9.ต่อเนื่องไม่ขาดตอน และ 10.แสวงหาความสงบในการเคลื่อนไหว โดยคณะกรรมการทุกท่านต้องทำงานหนักเนื่องจากต้องพิจารณาท่วงท่า ของทุกคนในสนามแข่งอย่างพินิจพิเคราะห์ซึ่งจะนั่งทั้ง 4 มุมของสนาม การแข่งขันดำเนินไปจนสิ้นสุดลงช่วงเช้า และเริ่ม ภาคบ่ายด้วยการแสดงจากชมรมไท้เก๊ก 17 แห่งทั่วประเทศซึ่งทุกชมรมได้ฝึกซ้อมและรอคอยเวลาที่จะได้มาแสดงบนเวทีแห่งนี้ เมื่อชุดการแสดงเสร็จสิ้นก็มาถึงเวลาสำคัญของการประกาศผลการตัดสิน แบ่งเป็น 3 รางวัลในแต่ละประเภท ได้แก่
เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง การแข่งขันปีนี้สิ้นสุดลงแต่จะเป็นการเริ่มต้นของนักกีฬารำไท้เก๊กทุกคนที่จะฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันครั้งต่อไปที่มหาวิทยาลัยจะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในปี 2562
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติเริ่มจัดกิจกรรมไท้เก๊กตั้งแต่ปีการศึกษา 2547 มีนักศึกษาผ่านการเรียน ไท้เก๊กกว่า 20,000 คน ปัจจุบันเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งเดียวที่สอนการรำไท้เก๊กและมีนักศึกษาเรียนวิชารำไท้เก๊ก มากที่สุดในประเทศไทย โดยจัดแข่งขันครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและเรียนรู้ศาสตร์ของไท้เก๊ก เป็นเวทีแข่งขันประลองความสามารถด้านไท้เก๊ก และเป็นการบริการทางสังคม กิจกรรมไท้เก๊กของมหาวิทยาลัยได้รับ การสนับสนุนอย่างดียิ่งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สมาคมไท้เก๊ก (ประเทศไทย) ชมรมไท้เก๊กมิตรสัมพันธ์ คณะที่ปรึกษาโครงการ ผู้มีอุปการคุณ คณะผู้ตัดสิน และวิทยากรจิตอาสาจากชมรมไท้เก๊กต่าง ๆ หากท่านใดสนใจการรำไท้เก๊กฝึกทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ อาจารย์พัทธนันท์ เลิศคุณอธินนท์ และอาจารย์อัจฉราพรรณ ช้างเขียว โทร.02-312-6300-79 ต่อ 1447 หรือแผนกประชาสัมพันธ์ต่อ 1140 อีเมล์ [email protected] หรือ @Jiab1605