กสอ. อัด 3 แคมเปญลุยพัฒนาแรงงานวัยเกษียณ นำร่อง 4 งานหัตถกรรมผู้สูงอายุสันกำแพง หวังยกคุณภาพชีวิตกว่าพันราย

จันทร์ ๓๑ ธันวาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๐๐
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สานต่อนโยบายรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มประชากรผู้สูงวัย พร้อมเผย 3 แนวทางในการส่งเสริมและรองรับแรงงานภาคอุตสาหกรรมหลังวัยเกษียณ ประกอบด้วย การพัฒนาวิสาหกิจชุมชนยกระดับเศรษฐกิจฐานราก การส่งเสริมเอสเอ็มอีวัยเกษียณ และการส่งเสริมด้านเงินทุนหมุนเวียน โดยเริ่มนำร่องฝึกอาชีพและเพิ่มทักษะการผลิตสินค้าหัตถกรรมชุมชนให้กับผู้สูงอายุกว่า 1,900 ราย ในอำเภอสันกำแพง 4 สาขา ได้แก่ การทำโคมยี่เป็ง การทำตุง 12 ราศี การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษสา และการทำไม้กวาดทางมะพร้าว เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ คาดว่าผู้เข้าที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ จะสามารถนำทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับไปสร้างรายได้ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วง 2 – 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างประชากรอย่างชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ทั้งจำนวน และสัดส่วนของผู้สูงอายุมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2564 ประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 5.6 ล้านคน (จากเดิมในปี พ.ศ. 2560 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 10 ล้านคน) ซึ่งการเพิ่มจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจะส่งผลกระทบทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และการพัฒนาสังคมโดยรวม ดังนั้น ขณะนี้หลาย ๆ ภาคส่วน จึงต้องมีการกำหนดมาตรการและการวางแผนในการยกระดับกลุ่มประชากรดังกล่าวให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างรัดกุม

นายกอบชัย กล่าวต่อว่า กล่าวต่อว่า ภายใต้การดำเนินงานของ กสอ. ได้เล็งเห็นว่าจำนวนผู้สูงอายุในกลุ่มผู้ใช้แรงงานของภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก และยังสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการสร้างงานและอาชีพเสริมให้กับผู้สูงวัยในภาคการผลิตที่จะกลับสู่ชุมชน ซึ่งจะทำให้คนเหล่านี้อยู่ได้โดยไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระลูกหลาน ดังนั้น ล่าสุดจึงได้เริ่มวางกลไกการพัฒนาระบบการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุเชิงระบบที่ในอนาคตจำเป็นจะต้องเน้นการสร้างความยั่งยืนของระบบสวัสดิการ หลักประกันในด้านรายได้ รวมถึงโอกาสต่าง ๆ ที่กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่วัยเกษียณควรจะได้รับ ซึ่งได้วางแนวทางไว้ 3 ด้านประกอบด้วย

- การพัฒนาวิสาหกิจชุมชนยกระดับเศรษฐกิจฐานราก โดยการนำร่องจัดหลักสูตรฝึกอบรมอาชีพให้แก่ผู้สูงอายุ

ในแต่ละชุมชนเพื่อเพิ่มทักษะ ความรู้ความสามารถจากภูมิปัญญาท้องถิ่น และพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตสินค้าจากชุมชนที่เป็นอัตลักษณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายรายทั้งผู้สูงอายุและภายในชุมชน ซึ่งกรมฯ ได้มีการดำเนินงานผ่านโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village: CIV) ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสามารถเติบโตได้ด้วยตนเอง ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน

- การส่งเสริมเอสเอ็มอีวัยเกษียณ โดยเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับแรงงานสูงวัย เพื่อก้าวสู่ การเป็น

ผู้ประกอบการใหม่วัยเกษียณ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้เกษียณอายุ ในช่วงอายุ 55-60 ปี ที่มีความตั้งใจเป็นเจ้าของธุรกิจ ให้สามารถเขียนโมเดลธุรกิจและแผนประกอบกิจการอย่างง่าย เพื่อขอรับเงินทุนและการยื่นคำขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพื่อให้ SMEs ในกลุ่มนี้มีขีดความสามารถ ทางธุรกิจ ทั้งในด้านการผลิตสินค้าและการบริการ

- ส่งเสริมด้านเงินทุนหมุนเวียน สำหรับผู้สูงอายุบางส่วนที่ต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจในวัยเกษียณ กสอ. จึง เตรียมความพร้อมด้านเงินทุนหมุนเวียนโดยเฉพาะด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมไทย และหัตถกรรมไทย วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่เพียงร้อยละ 4 อีกทั้งนี้ ต้องเป็นทายาทของผู้เกษียณและเข้าหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้กู้ จึงสามารถยื่นกู้ได้

นายกอบชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน ภายใต้การดำเนินงาน ของ กสอ. ยังได้นำร่องสำรวจความต้องการในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุใน ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีประชากรผู้สูงอายุจาก 10 หมู่บ้าน จำนวน 1,857 คน ร่วมกันกับ กสอ. คิดค้นหลักสูตร ที่มีความเหมาะสมและเกิดจากความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ รวมถึงสอดกับความต้องการของตลาด ภายใต้โครงการ "การส่งเสริมการผลิตสินค้าหัตถกรรมชุมชนเพื่อเพิ่มทักษะและรายได้สำหรับผู้สูงอายุ" ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มทำการฝึกอาชีพและเพิ่มทักษะการผลิตสินค้าหัตถกรรม 4 สาขา ได้แก่ การทำโคมยี่เป็ง การทำตุง 12 ราศี การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษสา และการทำไม้กวาดทางมะพร้าว ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว เป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการมีงาน มีอาชีพของประชากรกลุ่มต่าง ๆ ให้สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ จะสามารถนำทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับไปสร้างรายได้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 022024414 - 17หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4