สจล. แนะมาตรการเร่งด่วน รับมือปัญหาฝุ่นละลองขนาดเล็ก PM 2.5 คุมควันดำ เข้มงวดมาตรฐานการก่อสร้าง ตัดตอนสาเหตุมลพิษทางอากาศ

อังคาร ๑๕ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๖:๑๗
- สจล. ดึง WMApp ติดตามแนวโน้มเกิดฝน-ลมแรง พื้นที่ฝุ่นละออง PM 2.5 วิกฤต เผย16-17 มกราคมนี้ กำลังแรงเตรียมเข้าจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เสนอ 3 มาตรการเร่งด่วนรับมือปัญหาฝุ่นละลองขนาดเล็ก PM 2.5 ปกคลุมหลายจังหวัดของไทย แนะเจ้าหน้าที่รัฐเอาจริงลงพื้นที่คุมเข้มบังคับใช้กฎหมาย สกัดจับรถควันดำบนท้องถนน จับตาเขตพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานไร้การป้องกัน กวดขันทุกความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมลพิษ พร้อมเตือนประชาชนหยุดกิจกรรมในโล่งแจ้งเป็นเวลานาน หมั่นเปลี่ยนหน้ากากอนามัย N95 ไม่ใช้ซ้ำ ดึง WMApp ติดตามแนวโน้มเกิด ฝน-ลมแรงพื้นที่วิกฤต 16 – 17 มกราคมนี้ หวังช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ สจล. หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 เว็บไซต์ www.kmitl.ac.th หรือ www.facebook.com/kmitlnews

ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงในขณะนี้ มีสาเหตุจากกิจกรรมต่างๆของมนุษย์และการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งถูกปล่อยจากเผาไหม้ของเครื่องยนต์ และการก่อสร้าง เช่น ควันจากท่อไอเสียรถ การจราจรขนส่ง รวมถึงเครื่องจักรที่ใช้ในงานก่อสร้าง เป็นต้น โดยปัญหานี้เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง จนกระทั่งลุกลามถึงขั้นวิกฤติ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของประชาชน จึงจำเป็นต้องหาทางออกอย่างเร่งด่วน เพื่อคืนอากาศสะอาดคืนสู่สิ่งแวดล้อมโดยเร็วที่สุด

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีดังนี้

1. ขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่ดูแลโครงการก่อสร้างต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย และส่งผลกระทบต่อชุมชนในบริเวณโดยรอบน้อยที่สุด เช่น มีตาข่ายกันพื้นที่ก่อสร้างเพื่อดักจับฝุ่นละออง

2. เสนอให้กรุงเทพมหานครจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการทำงานตามพื้นที่ก่อสร้างต่างๆ ควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศให้ตามที่กฎหมายกำหนด และดำเนินการลงโทษแก่ผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด

3. เพิ่มมาตรการคัดกรองรถที่วิ่งบนท้องถนน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันกับรถปล่อยมลพิษควันดำระหว่างการขับขี่

ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบปัญหาฝุ่นละออง สามารถป้องกันตนเองได้จากการสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 ที่มีประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ ควรหมั่นเปลี่ยนชิ้นใหม่ทุกวัน โดยไม่ควรใช้ซ้ำติดกันนาน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในโรงเรียนต่างๆ ควรประกาศให้ยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ ส่วนแนวคิดที่รอให้ฝนตกช่วยชะล้างปริมาณฝุ่นละอองชนิดนี้ อาจไม่ใช่ทางเลือกทีดีที่สุด เพราะฝนสามารถกำจัดได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เนื่องจาก PM 2.5 มีอนุภาคเล็กกว่าชนิด PM 10 ที่เกิดจากการเผาป่า หรือปฏิกูลเหลือทิ้งจากการเกษตร จึงต้องอาศัยการแก้ที่ต้นเหตุควบคู่กันจึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดร. สุชัชวีร์ กล่าว

ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชินวัชร์ สุรัสวดี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผู้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรม WMApp เปิดเผยว่า จากการพยากรณ์ผ่านแอปพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศความละเอียดสูงสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป "WMApp" ที่ทำการวัด ความเร็วและทิศทางลม และความสูงของคลื่น ผ่านมาตราลมโบฟอร์ต (Beaufort Scale) พบว่าในช่วงนี้ อากาศสงบ ความเร็วลมน้อยกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สภาพอากาศปิด ส่งผลให้ควันไม่ลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เกิดการสะสมของฝุ่นละอองในอากาศ เมื่อฝุ่นที่เล็กมากจนมองไม่เห็นรวมตัวกันจึงคล้ายกลุ่มหมอกสีน้ำตาล จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับฝนที่ตกในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงช่วงเช้าวันนี้ (15 มกราคม 2562) เป็นฝนที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งมีปริมาณเล็กน้อย ยังไม่เกิดจากการทำฝนเทียม เนื่องจากการสร้างฝนเทียมในสภาวะอากาศเช่นนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก เพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือการสร้างเมฆให้เกิดฝนนั้น ต้องเริ่มจากการสภาวะของบรรยากาศที่มีความเหมาะสมในการเกิดเมฆอยู่ก่อนจึงจะสามารถสร้างฝนเทียมได้ ส่วนในช่วงประมาณวันที่ 16 – 17 มกราคมนี้ จะมีลมที่มาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลดลงได้ ทั้งนี้แนะประชาชนป้องกันตนเองได้จากฝุ่นละอองเพื่อรอสถานการณ์คลี่คลาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารงานทั่วไปและประชาสัมพันธ์ สจล. หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8111 เว็บไซต์ www.kmitl.ac.th หรือ www.facebook.com/kmitlnews

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4