โครงการในปีนี้ประกอบด้วยกรณีศึกษาทางธุรกิจ 2 กรณี โดยเน้นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ ธุรกิจการดูแลสุขภาพ (healthcare) และโลจิสติกส์ (logistics) ซึ่งทั้งสองกรณีศึกษา พัฒนาโดยทีมที่ปรึกษาของไอทีวันที่คร่ำหวอดและมีส่วนร่วมในโครงการปรับเปลี่ยนองค์กรมาสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างประสบความสำเร็จหลายโครงการ
- การดูแลสุขภาพ (Healthcare): โครงการปรับองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัล (digital transformation project) การปรับกระบวนการบริหารงานผู้ป่วยให้เป็นดิจิทัล พร้อมพัฒนาโรดแม็ป (roadmap) ด้านดิจิทัลขององค์กร ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องคิดพัฒนาโซลูชั่นต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านปฏิบัติการ หรือยกระดับประสบการณ์ในการใช้บริการ ทั้งของผู้ป่วยและขั้นตอนในการให้บริการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
- โลจิสติกส์ (Logistics): ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องคิดค้นโซลูชั่นที่เหมาะสมขึ้นโดยผนวกแนวคิด "การขนส่งที่เชื่อมต่อถึงกัน" (Connected Fleet) และ "ห่วงโซ่อุปทานด้านดิจิทัล" (Digital Supply Chain) เข้าด้วยกัน พร้อมให้คำแนะนำว่าจะนำโซลูชั่นนี้ไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายนำร่องที่มีศักยภาพกลุ่มใด
การแข่งขันนี้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงจากการลงมือปฏิบัติ ช่วยให้พวกเขาเข้าใจถึงแนวการคิด ที่สร้างสรรค์ ฉับไวและยืดหยุ่น โดยคำนึงถึงองค์ประกอบรวมและความต้องการของลูกค้าในการพัฒนาโซลูชั่น ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่นักศึกษาสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตการทำงานได้ นอกจากนี้ นักศึกษายังจะได้รับประโยชน์จากคำชี้แนะที่สร้างสรรค์จากทีมที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ตรงและคร่ำหวอดอยู่ในวงการ รวมทั้งได้ข้อคิดดี ๆ จากคณะกรรมการอีกด้วย
"เป้าหมายสำคัญของการแข่งขัน 'IT One Experience' ครั้งที่ 8 คือ การเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้แนวทางการแก้ปัญหาแบบใหม่ที่ปัจจัยแวดล้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาและหาทางออกได้โดยอิงนวัตกรรมเป็นพื้นฐานสำคัญ การเป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัลนั้น สิ่งสำคัญคือการจัดการกับปัญหาด้วยกรอบความคิดที่เปิดกว้างและการหาคำตอบโดยใช้ทักษะ ความสามารถ รวมทั้งพลังแห่งการสร้างสรรค์ ให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีมีการวิวัฒน์พัฒนาอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงต้องให้ความสำคัญกับการช่วยลูกค้าให้ก้าวผ่านช่วงดิสรัปชั่นของเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างราบรื่น รวมทั้งเผยศักยภาพคุณค่าของธุรกิจที่มีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ" มร. เทรเวอร์ ออสบอร์น ซีอีโอของไอทีวันกล่าว
"ไอทีวันของเรามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้องค์กรชั้นนำปรับเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรดิจิทัลอย่างประสบผลสำเร็จ พร้อมพัฒนาและปลูกฝังบุคลากรของเราให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความยืดหยุ่น และกระตือรือร้น มุ่งมั่นในทุกสิ่งที่ทำ หัวใจหลักของธุรกิจเราคือ การพิจารณาข้อมูลธุรกิจอย่างลึกซึ้ง และนำเทคโนโลยีล่าสุดที่เกี่ยวข้องมาปรับใช้ให้เกิดโซลูชั่นที่ดีที่สุดในการช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า โซลูชั่นของเราจึงหลากหลายและแตกต่างกันไปตามความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าที่ให้บริการ โครงการประกวดนี้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษาที่เข้าร่วมได้เข้าใจและรับรู้ขีดความสามารถของตนเอง รวมถึงศักยภาพที่พวกเขาจะสามารถช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมหรือธุรกิจต่าง ๆ ได้ หากต้องการพัฒนาตนเองต่อไปในสายอาชีพการพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลในยุคแห่งการดิสรัปชั่น"
ทีมผู้ชนะประกอบด้วยผู้เข้าแข่งขัน 5 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สามารถคว้ารางวัลเงินสด 100,000 บาทไปครอง
ทีมรองอันดับ 1 ประกอบด้วยผู้เข้าแข่งขัน 5 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สามารถคว้ารางวัลเงินสด 50,000 บาทไปครอง
ทีมรองอันดับ 2 ประกอบด้วยผู้เข้าแข่งขัน 5 คน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สามารถคว้ารางวัลเงินสด 25,000 บาทไปครอง
ทั้งนี้ แต่ละทีมได้รับการฝึกสอน ดูแล และแนะนำโดยเจ้าหน้าที่จากไอทีวันผู้มากประสบการณ์ ตลอดการแข่งขัน