“รมช.วิวัฒน์” ปลื้ม เกษตรกรจับมือหมอและครู ผลิตอาหารปลอดพิษให้ลูกหลาน ประกาศขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 30,000 ไร่ ในปี '64

พุธ ๒๓ มกราคม ๒๐๑๙ ๑๕:๑๕
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานในการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งมอบนโยบายการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนและเกษตรอินทรีย์ ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านหนองมัง ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรงจังหวัดอุบลราชธานี ว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพในการทำเกษตรอินทรีย์เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนที่สามารถส่งเสริมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้สำเร็จได้ เช่น มีสถาบันการศึกษาที่สามารถให้การสนับสนุนด้านวิชาการและการบริการด้านเกษตรอินทรีย์ มีผู้ประกอบการที่ดำเนินการผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งมีตลาดภายในจังหวัดที่สามารถรองรับผลผลิตได้ ที่สำคัญคือ ความร่วมมือของทุกภาคส่วนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ผลักดันให้จังหวัดอุบลราชธานีประสบความสำเร็จได้ โดยจังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 10 ล้านไร่แบ่งเป็นพื้นที่การเกษตรประมาณ 5.8 ล้านไร่

ทั้งนี้ การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้มีการส่งเสริมและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานเกษตรอินทรีย์ให้เป็นรูปธรรม กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย 4จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ร่วมลงนามความร่วมมือในการเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1,000,000 ไร่ ในปี 2564 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาโดยจังหวัดอุบลราชธานี มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 200,000 ไร่ ในปี 2564 พร้อมทั้งได้จัดทำ Road Map การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ภายใต้ยุทธศาสตร์ อุบล – ราชธานีแห่งเกษตรอินทรีย์ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

สำหรับการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์วิถีสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ในครั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเกษตรอินทรีย์เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม โดยได้กำหนดแนวทางความร่วมมือ ดังนี้ (1) จะร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในอำเภอสำโรง จากเดิมตั้งเป้าหมาย 10,000 ไร่ เป็น30,000 ไร่ ในปี 2564 (2) จะไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ พันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ที่ตัดแต่งพันธุกรรม ในการทำการเกษตร (3) ร่วมกันสร้างการรับรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ในการทำเกษตรอินทรีย์ให้กับเกษตรกรในอำเภอสำโรง (4) ร่วมกันสร้างเยาวชน คนอำเภอสำโรงรุ่นใหม่ หัวใจอินทรีย์ (5) เผยแพร่ความรู้เกษตรอินทรีย์วิถีสำโรงให้กับผู้ที่สนใจอย่างต่อเนื่อง (6) สร้างตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้อย่างทั่วถึง (7) สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเครือข่าย โดยเกษตรกรเป็นผู้ขับเคลื่อน ภาครัฐและภาคประชาสังคมเป็นฝ่ายสนับสนุน (8) ขับเคลื่อนแบบประชารัฐ ระหว่าง ส่วนราชการ เกษตรกร และภาคีเครือข่าย เพื่อทำให้อำเภอสำโรงเป็นอำเภอต้นแบบเกษตรอินทรีย์ และ (9) จะร่วมมือกันประชาสัมพันธ์ "เกษตรอินทรีย์ วิถีสำโรง"ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

"เกษตรกรในพื้นที่ อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ขานรับนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้งประกาศขอเพิ่มพื้นที่เป้าหมายเกษตรอินทรีย์จากเดิม 10,000 ไร่เป็น 30,000 ไร่ในปี 2564 ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานี มีตลาดภายในจังหวัดที่สามารถรองรับผลผลิตได้ เช่น โรงพยาบาล และโรงเรียนต่างๆ ที่พร้อมให้การสนับสนุนเป็นแหล่งรับซื้อผลผลิตเกษตรอินทรีย์ อีกทั้งมีภาคเอกชนที่เป็นเครือข่ายประชารัฐเข้าร่วมผลักดันและพัฒนาผลผลิตอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดทั้งส่งเสริมความรู้ด้านการตลาดให้แก่เกษตรกร สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ที่เน้นการตลาดนำการผลิต โดยการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยอำเภอสำโรง จะเป็นหนึ่งในอำเภอต้นแบบให้กับอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่จะขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป" นายวิวัฒน์ กล่าว

สำหรับผู้ร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์ ประกอบด้วย เกษตรกรต้นแบบเกษตรอินทรีย์นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 9 ตำบล กำนัน 9 ตำบล เกษตรอำเภอสำโรง นายอำเภอสำโรงสาธารณสุขอำเภอสำโรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสำโรง และบริษัท ประชารัฐ รักสามัคคีอุบลราชธานี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด โดยมี นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเฉลิมพล มั่งคั่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมเป็นสักขีพยาน

ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบเกียรติบัตรแก่เกษตรกรต้นแบบเกษตรอินทรีย์วิถีสำโรงจำนวน 15 คน พร้อมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการเกษตรอินทรีย์ และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการผลิตพืชผักอินทรีย์ของเกษตรกร ประกอบด้วย โรงเรือนแปลงผลิตหน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม บวบ คะน้า และกำหล่ำปลี ของนายสุรทอน เหมือนมาตย์ บ้านโคกสว่าง ตำบลโนนกลาง ,โรงเรือนแปลงผลิตถั่วเขียว มะเขือเทศราชินี สลัด ผักกาดขาวปลี ของนายปิยะทัศน์ ทัศนิยม บ้านโนนกลาง ตำบลโนนกลาง และโรงเรือนแปลงผลิตหอมแดง กระเทียม โรงปุ๋ยอินทรีย์ธนาคารน้ำหมักชีวภาพ ของนายสำลี บัวเงิน บ้านทุ่งสว่าง ตำบลโนนกลาง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๐ อิมแพ็ค จัดงาน Happy Hours: Wine Tasting Craft Beer ต้อนรับลูกค้าช่วงมอเตอร์โชว์
๑๗:๓๒ สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานแพร่ มอบเครื่องมือพื้นฐานชุดการฝึก (ชุดเครื่องมือทำมาหากิน) รุ่นที่ 4/2567
๑๗:๕๒ ดีพร้อม ดึงผู้ประกอบการเงินทุนฯ ทั่วประเทศ เปิดพื้นที่ทดสอบตลาด จัดงาน พร้อมเปย์ ที่ DIPROM FAIR
๑๗:๔๕ เขตราชเทวีจัดเทศกิจกวดขันผลักดันผู้ค้าตั้งวางแผงค้ารุกล้ำบนทางเท้าถนนราชปรารภ
๑๗:๑๗ เขตวัฒนากวดขันผู้ค้าทางออกสถานีรถไฟฟ้า MRT แยกอโศก ไม่ให้กีดขวางทางสัญจร
๑๗:๒๒ ดื่มด่ำกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ที่รอยัล คลิฟ พัทยา
๑๖:๐๙ SEhRT กรมอนามัย ปฏิบัติการประเมินความเสี่ยงสุขภาพจากไฟไหม้โรงงานพลาสติก จังหวัดระยอง
๑๖:๑๒ สิ่งที่ควรรู้ก่อนส่งอาหารไปอเมริกา แพ็คยังไง ส่งอะไรได้บ้าง?
๑๖:๐๘ ตอบข้อสงสัยการทำประกันออนไลน์ ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีการเคลม
๑๖:๐๓ 5 คุณประโยชน์ของวิตามินบำรุงสมอง อาหารเสริมที่ควรมีติดบ้าน