คุณหมอ "เมทิตา สัสดี"ได้ให้คำแนะนำเรื่องของการพาน้องหมาออกมาวิ่งในครั้งนี้ว่า เพื่อสุขภาพที่ดีนั้นน้องหมาจำเป็นจะต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้มีพัฒนาการของกล้ามเนื้อและข้อต่อที่ดี และให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นปกติ ไม่ป่วยง่ายเช่นเดียวกันกับคนซึ่งหากน้องหมาของเราไม่มีกิจกรรมทางร่างกายเลยอาจทำให้รู้สึกเบื่อ บางครั้งเกิดเป็นความเครียด ได้ในช่วงที่ไม่อยู่บ้านนานๆ การพาน้องหมามาออกกำลังกายจะช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้
และการวิ่งเป็นอีกทางเลือกอย่างหนึ่งที่สามารถทำร่วมกันได้ระหว่างน้องหมากับเจ้าของเพราะช่วยเสริมสร้างความรักความผูกพัน ช่วยให้น้องหมาได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนสี่ขาด้วยกัน ซึ่งการวิ่งจะทำได้บ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับอายุ สายพันธุ์ ขนาดตัว และสุขภาพโดยรวมของน้องหมาด้วยโดยน้องหมาทั่วไปสามารถวิ่งออกกำลังกายได้แค่วันละ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง แต่หากเป็นพันธุ์ใหญ่ อย่างLabrador retriever, hounds, collies และ shepherds สามารถวิ่งได้วันละ 1-2 ชั่วโมงเลยทีเดียว
แม้การออกกำลังกายจะดีแค่ไหน แต่สำหรับน้องหมาที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพอย่าง โรคหัวใจ หรือ โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ นั้นเจ้าของก็ควรใส่ใจเช่นกันซึ่งน้องหมาที่หน้าสั้น ควรปรึกษาคุณหมอ และลดการวิ่งลง หรือปรับเปลี่ยนเป็นการเดินเล่นเบาๆ และการเริ่มต้นวิ่งควรเริ่มด้วยการอบอุ่นร่างกายด้วยการเดินหรือวิ่งช้าๆ ก่อน และในขณะวิ่งควรสังเกตอาการหอบหายใจของน้องหมา ถ้าหากมีอาการหอบเหนื่อยมาก เริ่มวิ่งช้า ควรปรับการวิ่งให้ช้าลง และพักดื่มน้ำระหว่างวิ่งบ่อยๆ เพื่อให้ไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
ภายในงานคุณหมอ"เมทิตา สัสดี"ยังได้บอกถึงเคล็ดลับการดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสังเกตดวงตาของน้องหมาที่มีผลต่อสุขภาพมาบอกอีกด้วย โดยคุณหมอเล่าว่า สำหรับคนแล้วดวงตาจะสื่ออารมณ์ได้หลายอย่าง แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักของเรานั้นดวงตาสามารถบอกอารมณ์ความรู้สึกได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น เพื่อนซี้พันธุ์หน้าสั้นคงจะหนีไม่พ้น ปั๊ก, บอสตัน เทอร์เรีย, บูลด็อก และด้วยใบหน้าที่สั้น จึงมีตาที่โต และมักมีปัญหาเรื่องตาแห้ง หลับตาไม่สนิท ดังนั้น สุนัขหน้าสั้นจำเป็นต้องดูแลสุขภาพตาเป็นพิเศษ ถ้าสุนัขมีอาการตาแห้ง จะแสดงออกด้วยการมีขี้ตามาก ตาแดงอักเสบ บางตัวหรี่ตาอยู่ตลอดเวลา ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวัดปริมาณน้ำตา และอาจช่วยบรรเทาอาการด้วยการให้น้ำตาเทียมและยากระตุ้นน้ำตา ส่วน เพื่อนรักที่มีขนยาวอย่าง ไซบีเรียน ฮัสกี้, โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ มักมีปัญหาเรื่องขนตาระคายเคืองต่อลูกตา ซึ่งบางสายพันธุ์จะมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคต้อหิน ต้อกระจก เป็นต้น ซึ่งถ้าหากไม่พบปัญหาอะไรเป็นพิเศษควรพาน้องหมาไปตรวจตาปีละ 1 ครั้ง หรืออาจจะตรวจตาพร้อมๆ กับการทำวัคซีนประจำปีก็ได้
ทั้งนี้คุณหมอ "เมทิตา สัสดี"กล่าวทิ้งท้ายว่า น้องหมาที่มีสุขภาพตาที่ดีจะต้องมีกระจกตาที่ใส ชุ่มชื้นและเป็นประกาย ตาไม่แดง ไม่มีขี้ตาหรือน้ำตาไหลมากจนเกินไป อีกทั้งยังต้องมีการมองเห็นที่ดี ไม่มีอาการเดินชนสิ่งของต่างๆ ไม่มีอาการเกาตาหรือเจ็บหรี่ตา แต่ถ้าหากพบความผิดปกติขึ้นควรรีบพาไปพบหมอทันที เนื่องจากความเจ็บป่วยของดวงตาหลายโรคเป็นสาเหตุทำให้น้องหมาสุดน่ารักของเราตาบอดได้
แต่อย่างไรก็ตาม การจะพาน้องหมามาวิ่งมาราธอนได้นั้น จำเป็นอย่างมากที่เจ้าของจะต้องเตรียมตัวน้องหมามาอย่างดี เพื่อที่คู่หูของคุณจะได้วิ่งได้อย่างสบายใจไม่กังวล และยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย
สำหรับคนรักสุนัขสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมดีๆได้ทาง www.facebook.com/crystaldesigncenter