นางสาวเมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายจัดซื้อกลุ่มสินค้าอาหารสดและบริหารจัดซื้อ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ กล่าวว่า บริษัทรับซื้อทุเรียนคุณภาพจากเกษตรกรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,500 ตันในปี 2562 เพื่อจำหน่ายทั้งในสาขา และในบุฟเฟ่ต์คทุเรียน หรือ The Original Thailand's Amazing Durian and Fruits Fest ซึ่งปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 25 เมษายน 2562 ณ ลานสแควร์บี และ ซี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป้าหมายของบริษัทอยู่ที่การผลักดันเรื่องคุณภาพทุเรียน รวมถึงผลไม้ไทย เพื่อให้สามารถเป็นจุดขายของประเทศในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปให้ความรู้กับเกษตรกร การยกระดับคุณภาพทุเรียน และเข้าไปรับซื้อทุเรียนคัดเกรดในราคาที่เกษตรพึงพอใจ เพื่อจูงใจเกษตรกรตัดทุเรียนตอนสุกพร้อมรับประทาน ซึ่งหลังจากคัดทุเรียนคุณภาพจากสวนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ก็อยากจะให้ลูกค้าได้รับประทานทุเรียนคุณภาพ ตามระดับความสุกที่ชื่นชอบ ซึ่งในปี 2562 ได้ร่วมกับ ดร.ทรงพล สมศรี กูรูทุเรียนหนึ่งเดียวของประเทศ มาช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จนถึงจัดจำหน่ายในสาขา และฝึกอบรมพนักงานขายให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทุเรียน หรือเรียกว่า "คุณทุเรียน" มีการถ่ายทอดเทคนิคการเลือกทุเรียน เช่น ทุเรียนแก่ ก้านผลแข็ง ขั้วสากมือ สอนเลือกทุเรียนด้วยหลัก 4 ด.ประกอบด้วย ดู, ดม, ดีด (หนาม), ดูด (น้ำเลี้ยง) สอนฟังเสียงเคาะ ทุเรียนห่ามเสียงแน่นทึบ ทุเรียนสุกเสียงหลวมกลวง ที่จุดขายในสาขาจะมีการแยกกองทุเรียนสุก ทุเรียนสุกห่าม ทุเรียนสุกในวันถัดไป ทุเรียนแกะเนื้อแพ็คจะติดสติกเกอร์บอกระดับความสุข มีป้ายบอกรายละเอียดพันธุ์ทุเรียน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานทุเรียนในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ ในเฟสแรกพนักงานสอบผ่านด่านได้ 43 คน กลายเป็น "คุณทุเรียน" ประจำ 43 สาขา ใน เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ , ท็อปส์ มาร์เก็ต และ ท็อปส์ ซูเปอร์สโตร์
ทางด้าน ดร.ทรงพล สมศรี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการผลิตพืช อดีตหัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญ สำนักผู้เชี่ยวชาญ กรมวิชาการเกษตร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านการควบคุมคุณภาพทุเรียนให้กับ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ หรือเรียกได้ว่าเป็น "กูรูทุเรียน" กล่าวว่า ทุเรียน หรือ King of Fruits (คิงออฟฟรุ๊ต) ผลไม้ที่ถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างชื่อและรายได้ให้กับประเทศ แต่กว่าจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เกษตรกรต้องเอาใจใส่ ดูแล ควบคุม โดยเริ่มตั้งแต่ปัจจัยภายในที่ควบคุมได้ ได้แก่ การคัดเลือกพันธุ์ เกษตรกรสามารถปลูกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิต ในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว จะทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่พร้อมกัน ทำให้ได้ราคาดี มีการวางแผนการปลูกและจดบันทึก เพื่อปรับปรุงการปลูกในอนาคต
ดร.ทรงพล ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทุเรียนคนสำคัญของประเทศ เรียนจบสาขาพืชสวนจากคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เริ่มทำงานครั้งแรกในปี 2528 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี งานแรกเป็นศึกษาเรื่องสายพันธุ์ทุเรียน ใช้ระยะเวลาร่วม 10 ปี ในการเก็บสะสมสายพันธุ์ การจัดบันทึกข้อมูล ผสมและพัฒนาสายพันธุ์ จนสามารถรวบรวมพันธุ์ทุเรียนในจันทบุรีและใกล้เคียงได้ 68 สายพันธุ์ เช่น พันธุ์ที่เป็นการค้า ได้แก่ ชะนี, หมอนทอง, ก้านยาว, กระดุมทอง หรือพันธุ์หายาก เช่น ทองย้อย, ห้าลูกไม่ถึงผัว จนปัจจุบันในภาพรวมมีการรวบรวมได้กว่า 600 สายพันธุ์ ซึ่งในสมัยก่อนปัญหาของการปลูกทุเรียน คือลูกไม่ติด เม็ดโต เนื้อน้อย ไม่ทนโรค ไส้ซึมง่าย ดร.ทรงพล จึงเริ่มคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่รสชาติดี เนื้อดี สีสวย เม็ดลีบ ผลทรงสวย ต้นแข็งแรง จำนวนทั้งหมด 18 สายพันธุ์ มาจับคู่ผสมจนได้ต้นกล้ามาทดลองปลูก ช่วงที่ต้นทุเรียนกำลังเติบโต ดร.ทรงพล ได้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก สาขาปรับพันธุ์พืชและเทคโนโลยีชีวภาพ มหาวิทยาลัย ควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย หลังจากจบการศึกษา กลับมาประเทศไทยพบว่าทุเรียนสายพันธุ์ต่างๆที่ได้ทดลองปลูกไว้ เริ่ม ออกผล ได้มีการจัดเก็บข้อมูลลักษณะสายพันธุ์ พันธุ์ที่ผ่าน Criteria ต้องรสชาติดี เนื้อดี สีสวย ผลทรงสวย เม็ดลีบ ทนต่อโรค ฯลฯ จนได้สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิต 3 ระยะ คือ ระยะสั้น เช่น ชะนีผสมพวงมณี อายุ 85 วัน ,ระยะกลาง เช่น ก้านยาวผสมชะนี อายุ 95 วัน และระยะยาว เช่น ชะนีผสมหมอนทอง อายุ 100 วัน จากนั้นได้นำต้นพันธุ์ไปแจกจ่ายให้เกษตรกรในจันทบุรีนำไปปลูก โดยในปี 2549 ดร.ทรงพล เปิดตัวทุเรียนสายพันธุ์จันทบุรี 1, 2, 3 ปี 2556 เปิดตัวสายพันธุ์จันทบุรี 4, 5, 6 ในปี 2559 เปิดตัวสายพันธุ์จันทบุรี 7, 8, 9 และในปี 2561 เปิดตัวจันทบุรี 10
ดร.ทรงพล กล่าวอีกว่า การผลิตทุเรียนคุณภาพเกษตรกรต้องใส่ใจเรื่อง สภาพดินฟ้าอากาศ, พื้นที่ปลูกที่ไม่แน่นจนเกินไป ,สารอาหารในดินที่เหมาะสม ,มีการกำจัดศัตรูพืช , การตัดแต่งกิ่งและดอกเพื่อให้ทุกผลมีคุณภาพสวยงาม ทำให้สามารถอัพเกรดทุเรียนจากที่เคยได้เกรด C เป็นเกรด B และจากเกรด B เป็นเกรด A เกษตรกรต้องผลักดันในสวนทุเรียนผ่านมาตรฐาน GAP กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และโรงแพ็คต้องได้มาตรฐาน GMP เพื่อให้สามารถทำตลาดได้ทั้งในและต่างประเทศ
กูรูทุเรียน ผู้สะสมความรู้ตลอดอาชีพการทำงานได้ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ "คุณทุเรียน" เพื่อให้ลูกค้าของ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ มั่นใจได้ว่าจะได้รับประทานทุเรียนคุณภาพ ในระดับความสุกที่แต่ละคนชื่นชอบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการจัดการด้านคุณภาพที่เข้มข้น เพื่อสร้างความยั่งยืนในอาชีพให้เกษตรกรและสร้างรายได้อย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่บริษัทยึดถือมาโดยตลอด