แบมแบมกล่าวถึงสาเหตุที่รีบเคลียร์คิวเพื่อมาร่วมโปรเจคการกุศลครั้งนี้ว่า "ทุกวันนี้ผมเห็นข่าวที่นำเสนอเกี่ยวกับความรุนแรงในเด็กเยอะมาก ทั้งทางหนังสือพิมพ์ ทีวี และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้เด็กทั่วโลกเผชิญกับความรุนแรงทางร่างกายและจิตใจวันแล้ววันเล่าทั้งนอกบ้านและในบ้าน รวมทั้งในประเทศไทยที่ปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อเด็กเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเด็กนับแสนรายถูกกระทำรุนแรง แต่กลับมีเพียงไม่กี่พันรายเท่านั้นที่ได้รับการแจ้งเหตุ ผมคิดว่าไม่ควรมีเด็กคนไหนต้องใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดกลัวและฝันร้ายจากความรุนแรงเหล่านั้น
แคมเปญนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ร่วมงานกับยูนิเซฟ เพื่อเป็นกระบอกเสียงกระตุ้นให้คนในสังคมตื่นตัวในการปกป้องคุ้มครองเด็กก่อนที่จะสายเกินไป เราทุกคนต่างมีส่วนสำคัญในการยุติความรุนแรงต่อเด็กในทุกรูปแบบ ถ้าใครเห็นเหตุการณ์ ผมขอให้อย่ากลัว อย่านิ่งเฉย หากเห็นว่าสถานการณ์นั้นมีความรุนแรง ควรโทรแจ้ง 1300 สายด่วนของรัฐ เพื่อให้เด็กได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที การแจ้งเหตุเช่นนี้ คือจุดเริ่มต้นของการนำเด็กเหล่านั้นออกมาจากฝันร้าย และช่วยให้พวกเขาได้มีชีวิตที่สดใส มีความพร้อมต่อการเรียนรู้ อย่างที่เด็กทุกคนควรมี"
วิดีโอคลิปชุด "ขอบคุณที่ช่วยหนู" เริ่มต้นขึ้นขณะที่แบมแบมกำลังนั่งคุยกับพลเมืองดีที่เคยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ออกจากความรุนแรง พวกเขาเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นที่แต่ละคนต่างจดจำได้ไม่มีวันลืม เรื่องราวดำเนินมาถึงช่วงที่แบมแบมได้เล่าถึงเหตุการณ์ของเด็กคนหนึ่งที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมนำจดหมายที่เด็กคนนั้นเขียนขอบคุณผู้ที่ช่วยเหลือเธอในครั้งนั้นมาอ่าน เพื่อแทนคำขอบคุณทุกคนที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเด็กที่ถูกกระทำ
"ถ้าอยากเห็นว่าหนึ่งเสียงของคุณจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของเด็กคนหนึ่งได้แค่ไหน อย่าลืมติดตามชมวิดีโอคลิปของผมที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวปัญหาความรุนแรงต่อเด็กพร้อมกันทาง Facebook: UNICEF Thailand www.facebook.com/unicefthailand ฝากติดตามด้วยครับ" แบมแบมกล่าวทิ้งท้าย
ชมวิดีโอ "ขอบคุณที่ช่วยหนู" http://bit.ly/VACBamBam
ดาวน์โหลดคลิป "ขอบคุณที่ช่วยหนู" https://1drv.ms/v/s!AkIMFSolZH3EiacVmpQ6hnYvVvuiqQ
ภาพแบมแบม: https://drive.google.com/open?id=1EnXgiFt7izRshwY0uFXMgS7MS37g_zTH
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ www.unicef.or.th/endviolence