สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน สิงห์-เอสเอที กาญจนบุรี คลาสสิก 2019 ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านบาท จากการสนับสนุนร่วมกันของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 240,000 บาท เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการที่สามของฤดูกาล แข่งขันระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 ณ สนามเอเวอร์กรีน ฮิลล์ส กอล์ฟ คลับ ระยะ 7,214 หลา พาร์ 72
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต ซึ่งออกสตาร์ทรอบสุดท้ายตามหลังผู้นำ 2 สโตรก ทว่าในช่วงเก้าหลุมแรกแม้จะเก็บเบอร์ดี้ได้ตั้งแต่หลุม 3 ทว่าจากนั้นอีกสี่หลุมไปพลาดเสียสามโบกี้จากการเสียสามพัตต์ทั้งสามหลุม ก่อนกลับมาคุมเกมได้อีกครั้งด้วยการเก็บสี่เบอร์ดี้ติดตั้งแต่หลุม 8 จากนั้นไปได้อีก 2 เบอร์ดี้ที่หลุม 13 และ 15 ก่อนปิดท้ายด้วยอีเกิ้ลที่หลุม 16 จบรอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66
รวมสี่วัน ถิรวัฒน์ ทำสกอร์เข้ามา 19 อันเดอร์พาร์ 269 คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จโดยเฉือนชนะ ภวินท์ อิงคะประดิษฐ์ นักกอล์ฟจากสุพรรณบุรี ที่มาแรงในรอบสุดท้ายด้วยการหวดเข้ามาถึง 9 อันเดอร์พาร์ 63 จากการเก็บ 9 เบอร์ดี้ โดยไม่มีโบกี้ไป 2 สโตรก ขณะที่ ฐิติพัศ เล็ม นักกอล์ฟวัย 20 ปีจากกรุงเพพฯ ที่ออกสตาทรอบสุดท้ายในฐานะผู้นำจบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาเพียง 1 อันเดอร์พาร์ 73 รวมสี่วัน 16 อันเดอร์พาร์ 272 จบอันดับสามซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดในการเล่นระดับอาชีพ
ชัยชนะรายการนี้นับเป็นการคว้าแชมป์ระดับอาชีพรายการที่ห้าในชีวิตของ ถิรวัฒน์ แก้วศิริบัณฑิต แต่เป็นการคว้าแชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการที่สองต่อจากชัยชนะที่สนามกอล์ฟเขื่อนรัชชประภา เมื่อปี 2016 ซึ่งเปิดเผยหลังจากรับเงินรางวัลไปครอง 240,000 บาท ว่า "ชัยชนะในสัปดาห์นี้ของผมน่าจะมาจากความอดทน เพราะตลอดทั้งสัปดาห์ผมเล่นด้วยความอดทนอยู่ในเกมของตัวเองตลอด ไม่ได้ไปสนใจคนอื่น ไม่ไปอยู่กับเกมของคนอื่น อยู่ในเกมของเราและเราก็รู้ว่าสนามแบบนี้เราสามารถทำสกอร์ได้"
นักกอล์ฟวัย 29 ปีจากขอนแก่นยังกล่างถึงเกมในรอบสุดท้ายด้วยว่า"วันนี้สตาร์ทออกไปดีครับ มีเบอร์ดี้ก่อน แต่ไปสามพัตต์สามหลุมเสียสามโบกี้ ทำให้เกมตื้อๆ แต่เหมือนดึงเรากลับมาว่าเราต้องกลับมาโฟกัสที่ตัวเรา ก็มีสมาธิกับเกม กลับมาเล่นได้ดีได้สี่เบอร์ดี้ติดกัน จนกระทั่งพัตต์อีเกิ้ลระยะประมาณ 20 ฟุตลงไปที่หลุม 16 ก็มั่นใจว่าไม่น่าพลาด"
ถิรวัฒน์ ยังกล่าวต่ออีกว่า "ตอนออกสตาร์ทตอนเช้า ตอนแรกก็อยากชนะ คิดว่าตัวเองทำได้ เราเป็นเกมที่ชอบตีไล่อยู่แล้ว ตีจากข้างหลังไล่ขึ้นไป ก็รู้สึกว่ามันเป็นเกมของเรา ตอนที่เสียสามโบกี้ก็รู้สึกว่ามันห่างไปแล้ว ก็คิดว่าเค้าห่างไปแล้วก็ไม่ได้มองอะไรกลับมาเล่นเกมตัวเอง แต่พอช่วง 3-4 หลุมสุดท้าย ก็มาดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร จำเป็นต้องเล่นแบบไหน จำเป็นต้องบุกหรือว่าต้องเซฟ"