การกระทำดังกล่าวของบริษัทปัญจะพัฒนาวิศวกรรมและพาณิชย์การ จำกัด และนายพีรพนธ์ ลังเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว ได้ร่วมกันกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ฐาน ทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่ไม้หวงห้าม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 11 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 73 2. ฐาน ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 72 ตรี 3.ฐาน ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 มีบทกำหนดโทษตาม มาตรา 31 4. ฐาน กระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 มาตรา 26/4 ส่วนนายพีรพนธ์ ลังเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว โดนข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ทั้งนี้ การบุกรุกป่าชายเลนในครั้งนี้มีพื้นที่ จำนวนกว่า 13 ไร่ คิดค่าเสียหายทางด้านป่าไม้ได้จำนวนทั้งสิ้นเป็นมูลค่า 1,543,466.94 บาท ทั้งนี้ได้ลงบันทึกเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นายรัชชัย กล่าวปิดท้าย