นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เกิดสถานการณ์ไฟไหม้ป่า
ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดไฟไหม้สวนปาล์มและป่าพรุควนเคร็งในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียรใหญ่ (ตำบลเขาพระบาท ตำบลการะเกด ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว) อำเภอหัวไทร (ตำบลทรายขาว ตำบลบ้านราม ตำบลบางนบ ตำบลท่าซอม ตำบลเกาะเพชร ตำบลหัวไทร และตำบลหน้าสตน) และอำเภอชะอวด (ตำบลเคร็ง) พื้นที่ป่าพรุและสวนปาล์มได้รับความเสียหาย 5,034 ไร่ ประชาชนได้รับผลกระทบจากควันไฟ 16,631 ราย ปัจจุบันยังคงมีไฟไหม้ 1 จุด ในพื้นที่ตำบลเคร็ง อำเภอชะอวด รวมถึงยังต้องเฝ้าระวังไฟใต้ดินที่ปะทุอย่างใกล้ชิด จังหวัดสงขลา เกิดไฟไหม้ป่าในตำบลควนโสอำเภอควนเนียง พื้นที่ได้รับความเสียหาย 2,000 ไร่ สวนปาล์มได้รับความเสียหาย 300 ไร่ ประชาชนได้รับผลกระทบจาก
ควันไฟ 1,000 ราย ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ติดไฟบางส่วนใน 2 หมู่บ้าน พื้นที่ไฟปะทุ 1 หมู่บ้าน สถานการณ์มีแนวโน้มคลี่คลาย
เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกปฏิบัติการควบคุมและดับไฟป่า โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ประสบภัยได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ด้านสาธารณภัย ทั้งรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง ขนาด 10,000 ลิตร ชุดยานยนต์ดับเพลิงฉีดละอองน้ำ รถดับไฟป่า รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำและสูบส่งระยะไกล รถลำเลียง รถแบ๊คโฮ รถผลิตน้ำดื่มสนับสนุนโรงครัวพระราชทาน รถยนต์กู้ภัยชุดลากพ่วง
ยานยนต์ดับเพลิง รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ขนาด 6,000 ลิตร รถบรรทุกน้ำ ขนาด 6,000 ลิตร รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว และรถบรรทุกขนาดเล็กรวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนร่วมป้องกันไฟไหม้ป่า โดยงดเว้นการเผาขยะ
ใกล้แนวชายป่า ไม่ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพงหญ้าแห้ง กำจัดวัชพืชในพื้นที่การเกษตร โดยวิธีไถกลบแทนการจุดไฟเผา รวมถึงไม่เก็บหาของป่าหรือล่าสัตว์ด้วยวิธีการจุดไฟหรือรมควัน เพราะมีความเสี่ยงที่ไฟจะลุกลามเป็นไฟป่า ท้ายนี้ ประชาชนพบเห็นไฟป่าสามารถติดต่อแจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าควบคุมและ
ดับไฟป่าโดยด่วน