สำหรับพื้นที่เหมาะสมมาก และเหมาะสมปานกลาง ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมส่งเสริมและพัฒนาโดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ลดต้นทุนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ยกระดับคุณภาพสินค้าสู่มาตรฐาน ควบคู่กับการสร้างกลุ่มที่เข้มแข็งและพัฒนาระบบการบริหารจัดการกลุ่มที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่การผลิตในพื้นที่เหมาะสมน้อย และไม่เหมาะสม หากเกษตรกรสนใจปรับเปลี่ยนการผลิตข้าวเหนียวนาปี (อำเภอเวียงสา อำเภอเมือง และอำเภอท่าวังผา) เกษตรกรสามารถที่จะปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นเป็นพืชทางเลือกได้จำนวน 9,691 ไร่ ส่วนการปรับเปลี่ยนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (อำเภอเวียงสา อำเภอเมือง และอำเภอนาน้อย) สามารถปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นเป็นพืชทางเลือกได้ จำนวน 4,672 ไร่ และกรณีปรับเปลี่ยนลำไย (อำเภอท่าวังผา อำเภอเมือง และอำเภอเวียงสา) สามารถปลูกไม้ผลไม้ยืนต้นชนิดอื่นที่เหมาะสมได้ จำนวน 1,959 ไร่
สำหรับพืชทางเลือกที่เหมาะในการปรับเปลี่ยน มีจำนวน 3 ชนิด ได้แก่ มะม่วงหิมพานต์ มีต้นทุนการผลิต 9,595 บาท/ไร่ ให้ผลตอบแทนจากการผลิตในปีที่ 4 - 5 ประมาณ 17,703 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 8,107 บาท/ไร่ โดยผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ขายให้แก่ผู้รวบรวมในท้องถิ่น ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 10 ขายให้โรงงานแปรรูป (หจก. แคชิวนัทริช กรุ๊ป ไทยแลนด์) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอท่าวังผา เพื่อเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นเมล็ดกะเทาะเปลือก ทั้งนี้ ปี 2565 โรงงานแปรรูปดังกล่าวมีแผนรับซื้อผลผลิตประมาณ 5,000 ตัน ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ32 - 52 บาท
กาแฟ ต้นทุนการผลิต 4,123 บาท/ไร่ ให้ผลตอบแทนจากการผลิตในปีที่ 4 - 5 ประมาณ 6,370 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 2,246 บาท/ไร่ ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ขายในรูปผลสด (เชอร์รี่) ให้กลุ่มวิสาหกิจแปรรูปสันเจริญและกลุ่มอื่นๆ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอท่าวังผา โดยกลุ่มจะทำการแปรรูปเบื้องต้นเป็นเมล็ดกะลาและสารกาแฟ แล้วขายส่งให้แก่พ่อค้าในจังหวัดน่าน แพร่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และกรุงเทพฯราคารับซื้อเมล็ดผลสด (เชอร์รี่) อยู่ที่กิโลกรัมละ 11 - 13 บาท มีปริมาณความต้องการวัตถุดิบเพื่อผลิตกาแฟกะลา 70,000 กิโลกรัม/ปี และสารกาแฟ 52,000 กิโลกรัม/ปี ส่วนผลผลิตที่เหลืออีกร้อยละ 15 จะขายให้ผู้รับซื้อรายย่อย และร้อยละ 5 ขายให้ผู้รับซื้อรายใหญ่ในท้องถิ่น
มะขามเปรี้ยวยักษ์ มีต้นทุนการผลิต 7,627 บาท/ไร่ ให้ผลตอบแทนจากการผลิตในปีที่ 3 – 5 ประมาณ 38,150 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 30,523 บาท/ไร่ ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 85 จะขายในลักษณะมะขามฝักแห้งให้แก่ผู้รับซื้อในท้องถิ่นเพื่อรวบรวมส่งขายให้แก่พ่อค้าจากจังหวัดเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ราคารับซื้อมะขามฝักแห้งอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 - 30 บาท มะขามฝักสดกิโลกรัมละ 15 บาท สำหรับผลผลิตที่เหลืออีกร้อยละ 15 จะขายให้แก่พ่อค้าในท้องถิ่นและต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรมีพื้นที่ทำการเกษตรน้อย และปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน ไม่สามารถปรับเปลี่ยนการผลิตได้ จะต้องพัฒนาแหล่งน้ำ และปรับปรุงคุณภาพดินให้เหมาะสม สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลด้านพืชทางเลือกที่เหมาะสมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และ ตาก สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก โทร. 0 5532 2650 และ 0 5532 2658 หรือ อีเมล์[email protected]