นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีภารกิจดูแลเกษตรกร จึงได้มีการเน้นให้เตรียมมาตรการระยะยาว เพื่อช่วยเหลือ ประชาชน อาทิ การเก็บกักน้ำเพิ่มกรณีฝนตก ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ในช่วงฝนทิ้งช่วงได้ รวมถึงการขุดลอกแหล่งน้ำโดยต้องเตรียมหาพื้นที่เก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด ทั้งอ่างขนาดเล็ก แก้มลิง เป็นต้น รวมถึงพื้นที่หลังเขื่อนให้สร้างฝายเพิ่มน้ำ สร้างความชุ่มชื้นให้ป่าสมบูรณ์ภายใน 1-2 ปี จะต้องเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด สำหรับพื้นที่ที่เสียหายไปแล้ว ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งสำรวจข้อมูลพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง เพื่อชดเชยและเยียวยาความเสียหาย พร้อมทั้งหามาตรการในการช่วยเหลือ อาทิ การปลูกพืชใช้น้ำน้อย
"จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาช่วงเวลานี้มีลมมรสุมพัดผ่าน ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้พื้นที่ที่ประสบภัยแล้งเริ่มผ่านวิกฤติไปได้แล้ว ขณะนี้จึงต้องมาดูว่าในแต่ละเขื่อนมีน้ำต้นทุนเท่าไรรวมถึงอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กมีน้ำเก็บกักเพียงพอไว้ใช้ในหน้าแล้งหรือไม่ หากมีการเตรียมการและบริหารจัดการน้ำที่ดี เชื่อมั่นว่าจะมีน้ำเพียงพออุปโภค-บริโภค และการเกษตร"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว