กระทรวงเกษตรฯ มุ่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร ชู “GovTech/Big data” บริการประชาชน แก้ความเหลื่อมล้ำ ลดต้นทุน พร้อมสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น

พุธ ๐๔ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๔:๓๕
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือเพื่อกำหนดเป้าหมายและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร GovTech/Big data หวังยกระดับราคาสินค้าเกษตรและสร้างเสถียรภาพรายได้เพิ่มแก่เกษตรกร และลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ และสร้างโอกาสการเข้าถึงตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานภาคี ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานรัฐบาลดิจิทัล กสทช. CAT telecom ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า จากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และการปรับเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ส่งผลให้เกิดการผลิตและการค้าขายในรูปแบบระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นเพื่อให้ภาคเกษตรและเกษตรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการผลิตสินค้าเกษตรที่แม่นยำสูง มีระบบการบริหารจัดการฟาร์ม/แปลงที่นำชุดข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) มาวิเคราะห์เพื่อหาทางเลือกในการผลิตที่เหมาะสม และนำเสนอสินค้าให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย ตลอดจนเข้าสู่ตลาดพาณิชย์อิเลคทรอนิก์ e Commerc และระบบการขนส่ง e logistics รวมทั้งการจ่ายเงินแบบ e payments เพื่อให้เกษตรกรสามารถค้าขายและมีรายได้เพิ่มขึ้น

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มีแนวนโยบายการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตร GovTech/Big data ดังนี้ 1. พัฒนาและจัดทำระบบรายการข้อมูลภาครัฐ (Government Data Catalog) โดยตรวจสอบ วิเคราะห์และกำหนดชุดข้อมูลที่มีอยู่ให้เป็นมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อเป็น Data Catalog จากนั้นพัฒนากลไกการสืบค้นในมิติต่าง ๆ เพื่อให้บริการได้อย่างสะดวก รวมทั้งออกแบบเครื่องมือสำหรับการกำกับติดตามให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2. การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ตที่กระทรวงดิจิทัลได้วางระบบให้ครอบคลุม 75,000 หมู่บ้านเพื่อให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร สามารถเชื่อมโยงและสื่อสารข้อมูลขนาดใหญ่และข้อมูลสินค้าเกษตร เข้าสู่ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 3. การสื่อสารและบริการข้อมูลที่จำเป็นไปยังเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรฯ รวมถึง Smart Farmer และ Young Smart Farmer และอาสาเกษตรกร เช่น ข้อมูลภูมิอากาศ ข้อมูลน้ำ ข้อมูลดิน เทคโนโลยีสมัยใหม่ ข้อมูลตลาดและราคาสินค้า เพื่อให้เกษตรกรใช้ตัดสินใจวางแผนการผลิต แผนการตลาด

4.การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการอำนวยความสะดวกในการอนุมัติ อนุญาต เช่น การขึ้นทะเบียน การขอรับการรับรองมาตรฐานสินค้า การขอนำเข้า ส่งออก การตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร เพื่อให้การบริการของกระทรวงเกษตรฯ มีความรวดเร็ว โปร่งใสและตรวจสอบได้ และสร้างผลประกอบการที่ดีกว่าเดิม 5.การจัดให้ภาคเกษตรได้ใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ที่จัดสรรให้เพื่อการเข้าถึงข้อมูลอันจำเป็น เช่น การให้บริการคลื่นความถี่สำหรับระบบการติดตามเรือประมง (VMS) หรือ เพื่อระบบฟาร์มอัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีต้นทุนการใช้บริการเครือข่ายการสื่อสารที่ลดน้อยลง และ 6. การเชื่อมโยงสินค้าเกษตรกับแพลตฟอร์มการบริหารจัดการเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตร

"Big data มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เกษตรกรมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจและวางแผนการผลิตและการตลาดได้อย่างแม่นยำ สามารถลดต้นทุนการผลิต และขายสินค้าถึงมือผู้บริโภคโดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง รวมทั้งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของสินค้า คุณภาพมาตรฐาน ซึ่งส่งผลให้เกิดความพึงพอใจที่จะจ่ายเงินเพื่อได้มาซึ่งสินค้าที่ตรงกับความต้องการ เกษตรกรจึงมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น ประโยชน์จาก Big data และเทคโนโลยีดิจิทัลจะสร้างโอกาสให้เกษตรกรรายย่อยได้ติดต่อกับผู้บริโภคได้โดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ลดลง เกษตรกรมีอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาจัดทำแผนงาน มานำเสนอในทุกสัปดาห์ เพื่อเร่งรัด ติดตามให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือน โดยจะประชุมหน่วยงานในสังกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานภาคเพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดผลสำเร็จในทุกสัปดาห์" นายอลงกรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) ได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ เป็นเจ้าภาพบูรณาการการขับเคลื่อนในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าในห่วงโซ่อุปทาน กลยุทธ์ที่ 1.1 การยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานในภาคเกษตร ซึ่งคณะอนุพัฒนาระบบโลจิสติกส์การเกษตร ได้มีการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโลจิสติกส์และโซ่อุปทานภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 - 2564 เพื่อเป็นกรอบในการขับเคลื่อน ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ การสนับสนุนงบประมาณแก่สหกรณ์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรและอุปกรณ์การตลาด เช่น โรงสี โรงรวบรวม/คัดแยก/คัดเกรดผลผลิตตามมาตรฐาน GMP รถเกี่ยวนวด รถยก เครื่องผสมอาหารสัตว์ รถบรรทุกน้ำนมดิบ รวมทั้งเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรวบรวมผลผลผลิตจากสมาชิกสหกรณ์, พัฒนาปรับปรุงด่านพืช ประมง และปศุสัตว์ และการพัฒนาระบบ NSW รวมทั้งการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการทำการเกษตรสมัยใหม่ เป็นต้น สำหรับการขับเคลื่อนในปี 2563 หน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำคำของบประมาณภายใต้ภารกิจ (Function) ของหน่วยงาน และแผนบูรณาการของประเทศ 4 แผน ได้แก่ แผนพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ แผนพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ แผนพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และแผนพัฒนาพื้นที่ระดับภาค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๘ มี.ค. องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๒๘ มี.ค. การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๒๘ มี.ค. DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๒๘ มี.ค. JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๒๘ มี.ค. นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๒๘ มี.ค. Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๒๘ มี.ค. โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๒๘ มี.ค. STEAM Creative Math Competition
๒๘ มี.ค. A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๒๘ มี.ค. ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้