นายซาโตชิ ยามาโมโต ผู้บริหารบริษัท ซันปาร์ค กรุงเทพ จำกัด กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจร้านนี้ว่า เกิดจากสมัยเด็กๆ ตนเองชื่นชอบแกงกะหรี่เป็นอย่างมาก เมื่อมีเวลาว่าง มักตะเวนชิมร้านแกงกะหรี่ที่มีชื่อเสียงในย่านต่างๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศทั่วโลกมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี กระทั่งได้ลิ้มลองแกงกะหรี่อินเดียชื่อดังที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและเคี่ยวอย่างพิถีพิถันสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ตนเองอยากกินข้าวแกงกะหรี่ทุกวัน ดังนั้น จึงได้ตัดสินใจลงทุนเปิดร้านข้าวแกงกะหรี่เป็นของตัวเองแห่งแรกในย่านจิมโบโช เมื่อเดือนเมษายน ในปี 2561 ภายใต้แบรนด์ "MAJI CURRY"
"หลังจากเปิดร้านได้เพียง 7 เดือน เราก็เริ่มมองหาความท้าทายใหม่ๆ จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขัน Kanda Curry Grand Prix 2018 เมื่อเดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข่งขันข้าวแกงกะหรี่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น โดยมีร้านข้าวแกงกะหรี่ร่วมการแข่งขันกว่า 400 ร้าน และมีผู้ที่ชื่นชอบข้าวแกงกะหรี่ร่วมลงคะแนนโหวตกว่า 40,000 คน ผลการแข่งขันพบว่า ร้าน MAJI CURRY ถูกเลือกให้เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น คว้ารางวัลชนะเลิศไปครองในที่สุด เนื่องจากมีรสชาติความอร่อยเป็นเอกลักษณ์ ส่งผลให้ร้าน MAJI CURRY เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีลูกค้าจากเมืองต่างๆ แวะเวียนมาชิมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 200% กลายเป็นร้านแกงกะหรี่ระดับตำนานของชาวญี่ปุ่น และจากความพยายามของเราทั้งหมดนั้น ส่งผลให้เราประสบความสำเร็จภายในระยะเวลาเพียงแค่ 7 เดือน นับตั้งแต่วันที่เราดำเนินธุรกิจมา" นายยามาโมโต กล่าว
นายยามาโมโต กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้นในประเทศญี่ปุ่น จึงเกิดแนวคิดที่จะขยายสาขาไปยังต่างประเทศ กระทั่งตัดสินเลือกประเทศไทยเป็นสาขาแรกในต่างประเทศ ภายใต้คอนเซป์ "ร้านข้าวแกงกะหรี่อันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น แชมป์ Kanda Curry Grand Prix 2018 " เนื่องจากเล็งเห็นว่า มีโอกาสในการดำเนินธุรกิจในตลาดประเทศไทย และคนไทยจำนวนมากชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะข้าวแกงกะหรี่ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ดำเนินธุรกิจนี้ และแบรด์ของตนเองควรที่จะได้รับการประชาสัมพันธ์มายังประเทศไทยด้วย
สำหรับร้าน MAJI CURRY ในประเทศไทย ถูกตกแต่งให้มีกลิ่นอายสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ ในพื้นที่ขนาด 50 ตารางเมตร สามารถรองรับลูกค้าสูงสุดได้ 30 คน และมีเมนูข้าวแกงกะหรี่ให้เลือกมากกว่า 15 ชนิด ซึ่งเมนูไฮไลท์ ได้แก่ ข้าวแกงกะหรี่แฮมเบอร์เกอร์ราดชีสหอมๆ ซึ่งเป็นเมนูที่ชนะเลิศจากการแข่งขัน Kanda Curry Grand Prix 2018 และในอนาคต เราตั้งเป้าที่จะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 3 สาขาในประเทศไทย ภายในปี 2563 และตั้งเป้าให้ถึง 1,000 สาขาทั่วประเทศ
"ทางด้านความโดดเด่นของแบรนด์นี้นั้น ไม่เพียงแต่เฉพาะความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่เรายังปรุงอาหารให้กับลูกค้าอย่างพิถีพิถันทุกจาน เริ่มตั้งแต่การเลือกเนยและแป้งสาลีที่มีคุณภาพ เพราะแป้งสาลีกับเนยที่เดือดพร้อมกัน จะช่วยส่งกลิ่นหอมๆ เย้ายวนให้น่ารับประทาน ประกอบกับคัดสรรหัวหอมใหญ่ที่สด สะอาด นำมาเคี่ยวให้สุกกับเครื่องเทศกว่า 10 ชนิดให้เข้มข้นเข้าด้วยกัน จะช่วยเพิ่มรสหวานและความเผ็ดจัดจ้านให้มากขึ้นอีกเท่าตัว ยิ่งได้ทานคู่กับผักดองแห่งคันดะ ซึ่งเป็นเครื่องเคียงสูตรเฉพาะจากทางร้าน จะเพิ่มความอร่อยได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว" นายยามาโมโต กล่าว
สำหรับใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยของข้าวแกงกะหรี่ระดับตำนาน พ่วงแชมป์ Kanda Curry Grand Prix ปีล่าสุด สามารถมารับประทานได้ที่ร้าน MAJI CURRY สาขาสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. วันนี้เป็นต้นไป
เกี่ยวกับร้าน MAJI CURRY
MAJI CURRY ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2561 ในเมืองจิมโบโชประเทศญี่ปุ่น เจ้าของร้านเปิดร้านข้าวแกงกะหรี่ เพราะชื่นชอบข้าวแกงกะหรี่เป็นอย่างมากและใช้เวลากว่า 20 ปีในการลิ้มลองร้านแกงกะหรี่ทั่วโลก สำหรับสาเหตุที่ทำให้ MAJI CURRY กลายมาเป็นร้านแกงกะหรี่ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น เนื่องจากชนะเลิศการแข่งขัน Kanda Curry Grand Prix 2018 ส่งผลให้ทุกคนรู้จักแบรนด์นี้เป็นต้นมา กระทั่งในปี 2562 ได้ทำการเปิดตัวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นสาขาแรกในต่างประเทศ ตั้งอยู่ที่ สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 พื้นที่ขนาด 50 ตารางเมตร สามารถให้บริการลูกค้าได้สูงสุด 30 คน มีเมนูข้าวแกงกะหรี่มากกว่า 15 ชนิด และเมนูไฮไลท์คือ ข้าวแกงกะหรี่แฮมเบอร์เกอร์ราดชีส ซึ่งเป็นเมนูชนะเลิศของการแข่งขันในครั้งนั้น โดยในอนาคตจะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา รวมเป็น 3 สาขาในประเทศไทย ภายในปี 2563 และตั้งเป้า 1,000 สาขาทั่วประเทศ