จากการสำรวจของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี (สศท.10) พบว่า เกษตรกรในจังหวัดกาญจนบุรี มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 3,119 บาท/ตัว แยกเป็นค่าพันธุ์สัตว์ 1,950 บาท ค่าแรงงาน 540 บาท และส่วนที่เหลือ 629 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าอาหาร ยาป้องกันโรค และค่าเสื่อมโรงเรือนและอุปกรณ์ต่างๆ โดยแม่แพะ 1 ตัว ให้ผลผลิตลูกแพะประมาณ 2 ตัว/คอก ทั้งนี้ แพะเพศเมียเมื่อมีอายุประมาณ 8 เดือน จะเริ่มผสมพันธุ์ได้ไปจนถึงอายุประมาณ 7 ปี โดยแพะจะมีอายุขัยเฉลี่ย 15 ปี สำหรับราคาขาย เกษตรกรสามารถจำหน่ายแพะเนื้อ (อายุเฉลี่ย 7 เดือน น้ำหนักประมาณ 25 - 30 กก.) ในราคา 3,825 บาท/ตัว (127 บาท/นน.ตัว 1กก.) คิดเป็นรายได้สุทธิ (กำไร) เฉลี่ย 706 บาท/ตัว ซึ่งปัจจุบันมีความต้องการรับซื้อจากภาคใต้และความต้องการของประเทศมาเลเซียจำนวนมาก
ด้านนางจินตนา ปัญจะ ผู้อำนวยการ สศท.10 กล่าวเสริมว่า จากการสัมภาษณ์พูดคุยกับ นายเกษม เปรมปรีด์ หนึ่งในเกษตรกรตำบลรางหวาย อำเภอพนมทวน ซึ่งเป็นอำเภอที่นิยมเลี้ยงแพะ รองจากอำเภอเมืองและไทรโยค ได้บอกถึงผลสำเร็จว่า ตนเองปรับเปลี่ยนจากการทำนา และผันตัวทำเป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงแพะขุน ซึ่งหลังจากลูกแพะหย่านมเมื่ออายุ 3 เดือน นำมาเลี้ยงต่อจนอายุประมาณ 7 เดือน จึงจำหน่ายเป็นแพะเนื้อให้กับผู้รับซื้อ และเป็นพ่อค้าส่งออกแพะทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังสามารถมีรายได้จากการจำหน่ายมูลแพะเพื่อใช้เป็นปุ๋ยในแปลงพืชได้อีกด้วย
ทั้งนี้ การเลี้ยงจะใช้พื้นที่ไม่มากนัก เน้นให้แพะอยู่บริเวณที่จัดไว้ พร้อมทั้งหาอาหารในท้องถิ่น ได้แก่ ใบกระถินสด หรือการปลูกหญ้าแพงโกล่าในพื้นที่ของเกษตรกรเองเพื่อใช้เป็นอาหารแพะประจำวัน โดยแพะเป็นสัตว์ที่กินอาหารไม่มาก ต้องการวันละ 1-2 กิโลกรัม/วันเท่านั้นจึงไม่สิ้นเปลือง สำหรับราคาที่ขายจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับอายุ น้ำหนัก และ ความสวยงาม นอกจากนี้ จะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์บริการฉีดวัคซีนป้องกันพยาธิและโรคปากเท้าเปื่อยทุก 6 เดือนเป็นประจำ สำหรับเกษตรกรที่สนใจการเลี้ยงแพะสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ นายเกษม เปรมปรีด์ อยู่บ้านเลขที่ 170/1 หมู่ที่ 18 บ้านนาทราย ตำบลรางหวาย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี โทร 089 549 2045 ซึ่งยินดีให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรทุกท่าน