สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนจัดงาน “Italian Cuisine Week ครั้งที่ 4 ในเมืองไทย

พฤหัส ๒๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๐๙:๔๗
สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน หน่วยงานรัฐบาลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจของบริษัทสัญชาติอิตาเลียนในต่างประเทศและส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติในประเทศอิตาลี ประกาศกำหนดการจัดงาน "Italian Cuisine Week ครั้งที่ 4" ในประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยงาน Italian Cuisine Week ได้จัดแถลงข่าวเพื่อประกาศการจัดงานงานอย่างเป็นทางการแล้ว ณ ทำเนียบเอกอัคราชทูตอิตาลีในประเทศไทย โดยปีนี้กำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Food Education: A Taste of Culture (การศึกษาด้านอาหาร: รสชาติแห่งวัฒนธรรม)"

พิธีเปิดงานจะจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ณ เกษรวิลเลจ กรุงเทพฯ และในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดภูเก็ต โดยในคืนจัดงาน สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนจะเผยแพร่หนังสือ "Italian Cuisine in Thailand: Discovering Italy in 20 Regions" คู่มือเพื่อการค้นหาอาหารอิตาเลียนชั้นเลิศในประเทศไทย โดยสำนักงานฯ ได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อส่งเสริมการจัดงานสัปดาห์อาหารครั้งนี้โดยเฉพาะ

ในค่ำคืนแห่ง "ออสปิตาลิตา อิลาเลียนา (Ospitalita' Italiana)" ที่กรุงเทพฯ ครั้งนี้ บริษัทสัญชาติอิตาเลียน 7 แห่งจะจัดแสดงและนำเสนอรสชาติอาหารแนวใหม่แก่บรรดาผู้เข้าร่วมงานที่บริเวณโต๊ะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ อาทิ เมนูเนื้อตัดเย็น (โคลด์คัต) อาหารแป้งแบบปลอดกลูเตน ผักดอง กรานาเสิร์ฟกับทรัฟเฟิล ไวน์ต่าง ๆ เครื่องดื่มสปิริต (อมาโร) ซึ่งนำเสนอโดย สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารและไวน์แนวใหม่เหล่านี้จะถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบโดยเชฟจากร้านอาหาร ซึ่งจะรังสรรค์เมนูพิเศษเพื่อผู้เข้าร่วมงานในค่ำคืนนี้โดยเฉพาะ สำหรับกิจกรรมบนเวทีจะมีการฉายวีดีโอเพื่อนำเสนอข้อมูลและประชาสัมพันธ์บริษัทสัญชาติอิตาเลียนต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานเข้าไปเยี่ยมชมโซนการจัดแสดงที่ตกแต่งอย่างสวยงามและลิ้มลองอาหารรสเลิศมากมาย

นอกจากนี้ หอการค้าไทย-อิตาเลี่ยน จะจัดพิธีมอบรางวัล Awarding Ceremony at Ospitalita' Italiana เพื่อยกย่องร้านอาหารอิตาเลียนชั้นเยี่ยม 20 แห่งในประเทศไทย ซึ่งผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐานที่เคร่งครัดที่กำหนดโดยสถาบันวิจัยด้านการท่องเที่ยวอิตาเลียน (Italian Institute for Research in Tourism: INSART) โดยสถาบันจะทำการตัดสินว่าร้านอาหารใดที่มีมาตรฐานสอดคล้องตามข้อกำหนดอันเข้มงวดทั้ง 10 ด้าน ได้แก่

- อัตลักษณ์และความโดดเด่นในแบบอิตาเลียน (Identity and Italian Distinctiveness)

- การรับรองแขก (Reception)

- การจัดวางที่เหมาะสม (Mise en place)

- ครัว (Kitchen)

- รายการอาหาร (Menu)

- การนำเสนออาหาร (Gourmet offer)

- รายการไวน์ (Wine list)

- การใช้น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (Extra Virgin Olive Oil)

- ประสบการณ์และคุณสมบัติ (Experience and competence)

- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการคุ้มครองถิ่นกำเนิดและการคุ้มครองแหล่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (PDO and PGI products)

มร.จูเซปเป ลามัคเคีย ผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน กรุงเทพฯ กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดเทศกาลในครั้งนี้ ซึ่งเราหวังว่าจะสามารถเผยแพร่ความเป็นอิตาลีให้เป็นที่รู้จักในเมืองไทย ทั้งในด้านเมนูอาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม และแนวทางการปรุงอาหาร งานครั้งนี้จะนำเสนอเมนูอาหารจากอิตาลีมากมาย รวมถึงไวน์ชั้นเยี่ยมแก่ผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน"

Italian Festival Thailand 2019 ถือเป็นเทศกาลระยะยาว โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนได้เฉลิมฉลองความเป็น "อิตาลี" ผ่านการจัดอีเว้นท์หลายรูปแบบ สำหรับงานสัปดาห์อาหารครั้งนี้ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับตราสินค้าชั้นนำสัญชาติอิตาเลียนและร้านอาหารชั้นเลิศมากกว่า 20 รายในประเทศไทย เพื่อให้งาน "Italian Cuisine Week ครั้งที่ 14" นำเสนอเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ชาวไทยมากยิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน

สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนเป็นหน่วยงานรัฐบาลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจของบริษัทสัญชาติอิตาเลียนในต่างประเทศและส่งเสริมการลงทุนของชาวต่างชาติในประเทศอิตาลี ด้วยรูปแบบองค์กรสมัยใหม่ที่ได้รับแรงกระตุ้นและเครือข่ายสำนักงานที่แพร่หลายในต่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนทำหน้าที่ให้ข้อมูล ความช่วยเหลือ คำปรึกษา การสนับสนุน และการฝึกอบรมแก่ธุรกิจสัญชาติอิตาเลียนขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านแผนการส่งเสริมและเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่หลายช่องทาง เพื่อนำเสนอความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอิตาลีสู่สายตาชาวโลก

ลำดับร้านอาหารอิตาเลียน

1. Appia: กรุงเทพฯ

2. Brunello: กรุงเทพฯ

3. Enoteca: กรุงเทพฯ

4. Galleria Milano: กรุงเทพฯ

5. Gianni Ristorante: กรุงเทพฯ

6. Il Bolognese: กรุงเทพฯ

7. Italian Osteria: กรุงเทพฯ

8. La Scala: กรุงเทพฯ

9. La Scarpetta: กรุงเทพฯ

10. Mio Food Art: กรุงเทพฯ

11. Peppina: กรุงเทพฯ

12. Rossano's: กรุงเทพฯ

13. Da Antonio: เชียงใหม่

14. Pepenero: เกาะสมุย

15. Acquapazza: พัทยา

16. Acqua: ภูเก็ต

17. Bocconcino: ภูเก็ต

18. La Carbonara: ภูเก็ต

19. Portofino: ภูเก็ต

20. Rossovivo: ภูเก็ต

รายชื่อ 20 ร้านอาหารอิตาเลียนจะเป็นส่วนหนึ่งของงาน Italian Cuisine Week 2019 สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนจะประชาสัมพันธ์บริษัทสัญชาติอิตาเลียน 7 แห่งที่เข้าร่วมในงานครั้งนี้ ทั้งเพื่อส่งเสริมตราสินค้าใหม่ของบริษัทในการรุกตลาด และการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่ยังไม่วางจำหน่ายในตลาดเมืองไทย

ชื่อบริษัท: ผลิตภัณฑ์

1. Bedogni Egidio S.p.a: พาร์มาแฮม, คูลาเทลโล, เนื้อสัตว์หมักแปรรูป

2. Caffo Distillerie: อมาโร เดล คาโป

3. Salumificio Fratelli Beretta S.p.A.: คาร์เปนญ่าแฮม (PDO), คูลาเทลโล, วาร์ซี ซาลามี (PDO), ซาลามี เฟริโน (PGI), แฮมปรุงสุก กรานเบเร็ตตา

4. Forgrana Corradini S.p.A.: ชีสขูดฝอยรสทรัฟเฟิล

5. Molino Pizzuti: แป้งปลอดกลูเตน

6. Sacco vignaioli Apuli: ไวน์

7. AGRIn Salento: ผักดองและผลิตภัณฑ์ขนมอบ

สำหรับงานในปีนี้ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนจะมีการร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีในกรุงเทพฯ หอการค้าไทย-อิตาเลี่ยน และ คามิลโล เพลเลกัตตา แอนด์ อลิซ ลอว์ เพื่อจัดกิจกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การจัดงานในหลากหลายรูปแบบ

กิจกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์จะรวมถึงการสนับสนุนร้านอาหารอิตาเลียนที่เข้าร่วมในงานครั้งนี้ โดยพิธีกรภายในงานจะทำการสัมภาษณ์เชฟของร้านอาหารและมีการบันทึกภาพยนตร์ในขณะเตรียมอาหารเพื่อการโปรโมตรสชาติอันสุนทรีย์ของการปรุงอาหารสไตล์อิตาเลียน นอกจากนี้ยังมีการเชิญผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดของเมืองไทยมาร่วมงาน เพื่อเพิ่มอัตราการรับชมให้เกิดการรับรู้ถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในอิตาลี ตลอดจนผู้ประกอบการร้านอาหารและร้านอาหารอิตาเลียนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

คลิปวีดีโอสั้นของบริษัทและร้านอาหารที่เข้าร่วมจัดแสดงในงานครั้งนี้ จะถูกนำไปผลิตและเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทั้งยูทูป เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคในประเทศไทยซึ่งชื่นชอบการแบ่งปันเนื้อหาสาระต่าง ๆ ผ่านแพล็ตฟอร์มออนไลน์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๕ อัปเดตล่าสุด กฎหมายแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ต้องรู้ 2567
๑๕:๑๐ อมาโด้ (amado) ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดคอลลาเจน คว้า 2 รางวัล จากเวทีธุรกิจ 2024 Thailand's Most Admired Brand (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4) และรางวัล Brand Maker Award
๑๕:๒๒ ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี เติมฝันเด็กไฟ-ฟ้า ผ่านโชว์ Cover Dance คว้า 2 รางวัล จุดประกายศักยภาพและสร้างแรงบันดาลใจมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่สำคัญ
๑๕:๑๒ วว. / สสว. นำ วทน. พัฒนาขีดความสามารถการแข่งขัน SMEs จัดอบรมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยบรรจุภัณฑ์ ฟรี
๑๓:๕๐ เถ้าแก่น้อย ครองใจผู้บริโภคคว้า 'แบรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบที่สุด' จากผลสำรวจ Thailand's Most Admired Brand
๑๓:๓๘ Bose-Backed สมาร์ทวอทช์แบรนด์ Noise เปิดตัวในไทยบน Shopee และ Lazada
๑๒:๑๗ TIDLOR ปลื้ม! หุ้นกู้ 3 ชุดใหม่ มูลค่า 4,000 ลบ. ขายหมดเกลี้ยง ขอบคุณนักลงทุนที่ร่วมสร้างผลตอบแทน พร้อมกับสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไปด้วยกัน
๑๒:๔๗ แอล.พี.เอ็น. เปิดโมเดลซัพพอร์ทคนอยากมีบ้าน เจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัย ไม่เกิน 3 ล้าน ผุดแคมเปญ 'LPN ดูแลให้' และ 'LPN
๑๒:๓๗ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 'Redmi Note 13 Series' ให้คุณกดบัตรคอนเสิร์ต '2023-2024 BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK Presented by Xiaomi' รอบ
๑๒:๐๘ กรมโยธาฯ ใช้มาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้างงานที่ล่าช้าสร้างความเดือดร้อนประชาชน