ผลสำเร็จโครงการจัดระบบน้ำเพื่อการเกษตร ปากน้ำประแสร์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 28 ล้านบาท

พฤหัส ๒๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๐:๕๒
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงโครงการจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรม ในพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประแสร์ ว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณลุ่มน้ำประแสร์ ให้มีเพียงพอสำหรับส่งน้ำให้พื้นที่เพาะปลูกในเขตโครงการ และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ โดยมีพื้นที่ชลประทานครอบคลุมเขตอำเภอวังจันทร์ อำเภอเขาชะเมา และอำเภอแกลง ของจังหวัดระยอง ซึ่งที่ผ่านมา โครงการฯ มีแหล่งน้ำต้นทุนที่เพียงพอทั้งภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม มีสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าด้วยระบบท่อพร้อมทั้งหัวจ่ายน้ำสู่แหล่งน้ำสาธารณะ แต่ยังไม่มีระบบแพร่กระจายน้ำสมบูรณ์ที่จะเข้าถึงทุกแปลงของเกษตรกรโดยตรง ดังนั้น กรมชลประทาน โดยสำนักงานจัดรูปที่ดินและจัดระบบน้ำเพื่อเกษตรกรรมที่ 19 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของระบบชลประทานระดับไร่นา (On Farm Irrigation) จึงได้ดำเนินการก่อสร้างโดยการเชื่อมท่อส่งน้ำย่อยเข้ากับท่อส่งน้ำหลักเพื่อส่งน้ำเข้าสู่แปลงของเกษตรกร ช่วยให้เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะได้

จากการติดตามของ สศก. เพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์โครงการฯ พบว่า มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 2,176 ไร่ เกษตรกร 113 ครัวเรือน โดยการก่อสร้างท่อส่งน้ำสายหลักและสายแยกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำ ทำให้สามารถส่งน้ำได้ทั่วถึง ทุกแปลงเพาะปลูกของเกษตรกร รวมทั้งมีการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เกษตรกรวางแผนใช้น้ำได้ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยภาพรวมเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจต่อโครงการในระดับมากที่สุด เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตทุเรียนได้เหลือ 20,429 บาท/ไร่ จากเดิมเฉลี่ย 21,915 บาท/ไร่ (ลดลง 1,486 บาท/ไร่) สามารถเพิ่มผลผลิตได้เป็น 933 กก./ไร่ จากเดิม 815 กก./ไร่ (เพิ่มขึ้น 118 กก./ไร่) โดยเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ จำนวน 28.91 ล้านบาท/ปี จากการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

ด้านนางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเสริมว่า ผลสำเร็จของการดำเนินโครงการ เห็นได้ชัดว่า ช่วยให้เกษตรกรได้รับผลผลิตอย่างเต็มที่ มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ร่วมกันวางแผนการจัดสรรน้ำ มีการจัดรอบเวรการใช้น้ำ และการดูแลรักษาระบบส่งน้ำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังทำให้เกษตรกรในพื้นที่เริ่มลดพื้นที่ปลูกยางพารา และปรับเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนแล้ว 35.5 ไร่ เพราะมีระบบกระจายน้ำที่สมบูรณ์ จึงสามารถควบคุมปริมาณน้ำตามความต้องการของพืชได้ โดยเกษตรกรมีความต้องการให้มีการขยายพื้นที่ดำเนินการต่อไปในพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง กรมชลประทาน เตรียมขยายผลในบริเวณพื้นที่โครงการในระยะต่อไป โดยในปี 2563 มีแผนดำเนินการขยายพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณลุ่มน้ำประแสร์ ในระยะที่ 6 และ 7 โดยพัฒนาระบบท่อส่งน้ำเพิ่มเติมอีกประมาณ 2,000 ไร่ เพื่อช่วยสร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงในอาชีพให้แก่เกษตรกร โดย สศก. จะได้ดำเนินการติดตามผลการดำเนินงานเพื่อรายงานผลความก้าวหน้าให้ทราบในระยะต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?