วสท. แนะลดเสี่ยงอัคคีภัยบ้าน-อาคาร ก่อนเที่ยววันหยุดยาวต้อนรับปีใหม่ 2563

อังคาร ๒๔ ธันวาคม ๒๐๑๙ ๐๙:๔๒
ความประมาทเพียงครั้งเดียวอาจสร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่าไม่ได้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เตือนลดเสี่ยงอัคคีภัยช่วงวันหยุดยาว โดยมีคำแนะนำการดูแลป้องกันอัคคีภัยสำหรับเจ้าของอาคารและเจ้าของบ้าน ก่อนออกจากบ้านเที่ยวให้สนุกและปลอดภัยในเทศกาลปีใหม่ต้อนรับปีหนู

ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่า 2562 ต้อนรับปีใหม่ 2563 กิจการร้านค้าและประชาชนส่วนใหญ่ต่างพากันเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว อัคคีภัยเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยมีองค์ประกอบหลักได้แก่ อากาศ ความร้อน เชื้อเพลิง อุปกรณ์ไฟฟ้า และรวมไปถึงกิจกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวกับไฟ เช่น การจุดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือการก่อไฟให้ความอบอุ่น

สำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของอาคาร และแหล่งท่องเที่ยว ธุรกิจประเภทเครื่องเล่น ซุ้มประดับไฟ ศูนย์การค้าต่างๆ ควรใส่ใจในการใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน ติดตั้งและตรวจสอบ ตลอดจนมีการบำรุงรักษาด้วยช่างผู้เชี่ยวชาญ และมีวิศวกรควบคุมดูแล ตลอดจนเตรียมแผนบริหารจัดการพร้อมบุคลากรกรณีเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะสวนสนุกในกรุงเทพ ซึ่งมีอยู่ 48 แห่ง สวนสนุกแบบถาวรภายในอาคารต้องมีใบอนุญาตก่อสร้างและใบอนุญาตประกอบกิจการ และสวนสนุกที่ติดตั้งชั่วคราวตามเทศกาล ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ด้านสุขลักษณะความปลอดภัยและชีวอนามัยสำหรับกิจการสวนสนุกตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมเครื่องเล่น พ.ศ. 2558 ใน 5 ด้าน คือ 1.ต้องมีคู่มือการติดตั้ง และขออนุญาตถูกต้อง 2.ต้องมีคู่มือการใช้งานเครื่องเล่น พร้อมติดป้ายคำเตือน และกำหนดอายุผู้เล่นให้เห็นชัดเจน 3.ต้องมีคู่มือการดูแลบำรุงรักษา และตรวจสอบตามเวลาที่กำหนด คือ 3 - 6 เดือน และ 1 - 5 ปี 4.ต้องมีคนคุมเครื่องที่ต้องผ่านการฝึกอบรม และ 5.ต้องมีแผนการรับมือและแก้ไขปัญหาในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงต้องดูแลความสะอาดป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ

สำหรับข้อแนะนำสำหรับประชาชน คุณบุษกร แสนสุข ประธานสาขาวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย และประธานสาขาวิศวกรรมความปลอดภัย วสท.แนะนำการป้องกันไฟไหม้ก่อนออกจากบ้านไปเที่ยวช่วงวันหยุดยาวอย่างสบายใจไร้กังวล ดังนี้

- ก่อนออกจากบ้าน ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าและถอดปลั๊กไฟที่ไม่ใช้งาน ปิดสวิตซ์ไฟ เตาประกอบอาหารและวาล์วถังก๊าซหุงต้มให้สนิททุกครั้ง

- ติดตั้งระบบป้องกันเพลิงไหม้ เช่น เครื่องตรวจจับควัน, สัญญาณแจ้งเตือนภัย, เครื่องตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ, อุปกรณ์ดับเพลิงชนิดมือถือ รวมถึงการวางแผนรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินไว้ล่วงหน้า

- หลีกเลี่ยงการเฉลิมฉลองด้วยพลุ ดอกไม้ไฟ ภายในอาคารบ้านเรือนหรือสถานที่ปิดต่าง ๆ

- ไฟประดับต้นคริสต์มาส หรืออุปกรณ์ตกแต่งปีใหม่ เป็นไฟต่อพ่วงที่ใช้งานแบบชั่วคราว โดยเฉพาะการต่อพ่วงบริเวณนอกบ้าน เมื่อถูกแสงแดด ฝนสาด ลมพัด หรืออยู่ใกล้กับแหล่งความร้อน อาจทำสายไฟฟ้าชำรุด/ขาดอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือกรณีปลั๊กเกิดการหลวมเกิดความร้อนสะสมและเป็นสาเหตุให้เกิดไฟลุกไหม้

- ตรวจสอบปลั๊กไฟพ่วงต่างๆ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากพบสายไฟชำรุดฉีกขาด บุบ บวม เปลี่ยนสี มีกลิ่นไหม้ ให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที ควรเลือกใช้ปลั๊กไฟพ่วงที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ทั้งสายไฟและรางปลั๊กไฟ ซึ่งจะใช้วัสดุคุณภาพดีและพลาสติกที่มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ มีฟิวส์หรือวงจรตัดไฟช่วยป้องกันการใช้ไฟเกินได้ และติดตั้งอย่างถูกวิธีโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

- เพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานอิเลคทรอนิคส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น กล่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต ธูปเทียนไฟฟ้า กริ่งไร้สาย ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องใช้ไฟเลี้ยงตลอดเวลา มีกำหนดอายุการใช้งานและการเสื่อมสภาพ หากไม่มีการตรวจสอบอาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน จึงควรถอดปลั๊กหลังใช้งานและเก็บให้เรียบร้อย

- จัดอาคารบ้านเรือนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยวัสดุในบ้านที่สามารถติดไฟได้ง่ายและมักถูกมองข้าม อาทิ กระดาษ เสื้อผ้า น้ำมัน ทินเนอร์ สีทาบ้าน เป็นต้น เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ควรแยกเก็บสารเคมีที่ติดไฟง่ายในบริเวณที่แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ห่างจากแหล่งความร้อนที่เป็นตัวเร่งให้เกิดเพลิงไหม้

- หากใช้ฟืนไม่ควรปล่อยให้มอดดับเองเป็นอันขาด ต้องดับให้สนิททุกครั้งเมื่อมีการก่อฟืนไฟ

- งดเว้นการเผาขยะ หญ้าแห้ง และเศษวัสดุ ในช่วงอากาศแห้งหรือช่วงที่ลมพัดแรง

- กรณีมีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ควรมีผู้ดูแลและจัดให้อยู่ชั้นล่างของอาคารหรือใกล้กับประตูทางออก และซักซ้อมแผนเคลื่อนย้ายกรณีฉุกเฉิน มีเบอร์ติดต่อประสานงานในการช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

- สำหรับสถานประกอบกิจการ ให้เพิ่มความเข้มงวดและความถี่ในการตรวจตราระบบดับเพลิงให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา และสำรวจจุดเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย การใช้และจัดเก็บวัตถุไวไฟ เชื้อเพลิงที่ติดไฟง่าย และแหล่งความร้อนต่าง ๆ รวมทั้งให้มีการตรวจสอบระบบแจ้งเตือนภัย แผนฉุกเฉินมาตรการป้องกัน

- โรงงาน อาคารโรงพยาบาล อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารที่มีความเสี่ยงอัคคีภัย อาคารที่ผู้ใช้อาคารหนาแน่น ในช่วงเทศกาล จะต้องวางแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน จัดเตรียมบุคลากรให้อยู่ประจำอาคารในช่วงวันหยุดยาวหรือเทศกาล เพื่อทำหน้าที่ดูแลอาคาร ป้องกันการเกิดอัคคีภัยและสามารถระงับเหตุได้ทันที

- อบรมให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านความปลอดภัยในการป้องกันอัคคีภัยและเส้นทางอพยพแก่ทุกคนในครอบครัว และพนักงานหรือผู้ใช้อาคาร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๗:๓๓ รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๗:๔๔ กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๗:๔๒ ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๗:๑๕ กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๗:๑๕ เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๗:๒๙ สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๗:๑๐ GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๗:๔๓ เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๖:๓๖ เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4