การแสดงพลุดอกไม้ไฟสุดตระการตา การเชิดสิงโตด้วย LED เทคโนโลยีแสงและเงา พร้อมสเปเชียลเอฟเฟกต์เป็นลำแสงเลเซอร์ ตลอดจนการโต้ตอบสื่อสารกันระหว่างมนุษย์กับจอภาพ ได้สร้างบรรยากาศที่มหัศจรรย์ให้กับงานเฉลิมฉลอง ประชาชนนับหมืนคนจากสามเมืองได้รวมกันขับขานบทเพลงและแสดงปณิธานสำหรับปีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการแสดง "Super Project" อันน่าทึ่ง โดยเป็นการแสดงที่นำนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนมาผสานกับวัฒนธรรม เพื่อนำเสนอภาพของเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊าที่คึกคัก มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์ ซึ่งหลอมรวมธรรมเนียมประเพณี นวัตกรรม ความคลาสสิก และความทันสมัย มาเผยแพร่แก่ชาวโลก
นอกจากสามเมืองจะฉลองปีใหม่จีนร่วมกันแล้ว เขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊ายังเปิดประตูต้อนรับอนาคตที่ดีขึ้นไปพร้อมกันด้วย ในฐานะหนึ่งในภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเปิดกว้างและคึกคักมากที่สุด เขตอ่าวแห่งนี้กำลังมอบโอกาสและความหวังที่สดใส ด้วยอานิสงส์จากสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ที่ได้รับการขนานนามว่า "Golden Channel" โดยเมืองจูไห่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตนี้ กำลังส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกกับฮ่องกงและมาเก๊า ด้วยการดึงทรัพยากรต่าง ๆ ได้แก่ นวัตกรรม บุคลากร เงินทุน เทคโนโลยี และวัฒนธรรมของเขตอ่าว รวมทั้งจากทั่วโลก มารวมกัน เชื่อมโยงกัน จัดสรร และบูรณาการในเมืองจูไห่ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองและเขตอ่าวแห่งนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
การเปิดสะพานทำให้ยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอย่าง Huawei, Alibaba, Tencent และ Foxconn ได้เข้ามาสร้างความร่วมมือเชิงลึกกับเมืองจูไห่ในหลายสาขา ซึ่งรวมถึง เมืองอัจฉริยะ ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์คอมพิวติ้ง และชิป เพื่อขยายระบบเศรษฐกิจใหม่ให้กว้างขึ้น "ด้วยการพัฒนาต่อเนื่องของเขตอ่าว เมืองจูไห่จึงได้อานิสงส์จากแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งนี้ อีกทั้งยังมีอนาคตที่สดใส จากความได้เปรียบของทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที๋โดดเด่น" Zhang Jianfeng หุ้นส่วนและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Alibaba Group กล่าว
ปัจจุบัน การพัฒนาเขตอ่าวกำลังเข้าสู่ช่วงที่น่าตื่นเต้นและท้าทาย ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างจูไห่และมาเก๊า ข้อมูลจากรัฐบาลเมืองจูไห่เผยให้เห็นว่า เฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2019 มีบริษัทจากมาเก๊าเข้ามาลงทุนและเปิดดำเนินธุรกิจในจูไห่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทใหม่ในจูไห่
นอกจากนี้ การเชื่อมต่อระหว่างจูไห่และมาเก๊ายังได้สร้างประโยชน์นานัปการให้แก่ประชาชนของทั้งสองฝ่าย โดยเมื่อไม่นานมานี้ Zhuhai Real Estate Registration Center และ Industrial and Commercial Bank of China (Macau) Co., Ltd. ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเพื่อจัดตั้งศูนย์บริการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ในมาเก๊า ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยศูนย์แห่งนี้จะช่วยให้บริษัทและชาวมาเก๊าสามารถดำเนินการจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ข้ามพรมแดนได้ภายในมาเก๊า
ขอบเขตความร่วมมือระหว่างจู่ไห่และมาเก๊าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องนี้ นับเป็นหลักฐานยืนยันถึงการเปิดเสรีของเขตอ่าวที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ตลอดจนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการดำเนินการของจีนในการเดินหน้าเปิดประเทศไปสู่แวดวงใหม่ ๆ
ภายในปี 2020 การยื่นเอกสารการลงทุนจากต่างชาติที่อยู่นอกข้อจำกัด/ข้อห้าม (Negative List) ของจีน จะใช้เวลาเพียงหนึ่งวันทำการ และจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ภายในสี่วันทำการ ซึ่งคาดว่าจะทำให้จำนวนบริษัทจากฮ่องและมาเก๊าที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นแตะ 12,000 แห่ง นอกจากนี้ จะมีการเปิดเสรีอย่างเต็มรูปแบบสำหรับขอบเขตการทำธุรกิจของชาวฮ่องกงและมาเก๊า โดยมณฑลกวางตุ้งได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะส่งเสริมการบูรณาการทรัพยากร การเสริมสร้างความได้เปรียบ และการเชื่อมโยงมาตรการต่าง ๆ ในเขตอ่าวเพื่อนำไปสู่การกำหนดรูปแบบการเปิดกว้างด้วยการเชื่อมพื้นที่บกและทะเล พื้นที่ในประเทศและต่างประเทศ และความร่วมมือระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำจูเจียง (Pearl River) อันจะสร้างประโยชน์ซึ่งกันและกันต่อไปในอนาคต
การจัดงานฉลองตรุษจีน Spring Festival Gala บนสะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ไม่เพียงสะท้อนความเชื่อมโยงจากเมืองสู่เมืองที่ได้รับการปรับปรุงยกระดับให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างสามเมืองหลัก โดยการพัฒนาเขตอ่าวจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาฮ่องกงและมาเก๊า ตลอดจนขยายขอบเขตความร่วมมือใหม่ ๆ ระหว่างจีนและทั่วโลก
ที่มา: รัฐบาลเมืองจูไห่
AsiaNet 82598