เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า การอบรมนวัตกรรม R-Excellenceเน้นความดี วิถีพุทธ ครั้งนี้ มีหลักการหรือแนวคิดอยู่บนพื้นฐานของการดำเนินชีวิตแบบวิถีของคนปกติทั่วไป ที่ยึดหลักการทำความดี เพราะความดีคือสมบัติที่แท้จริงของมนุษย์ สามารถแสดงออกเป็นรูปลักษณ์ กริยาท่าทาง ทั้งทางกาย วาจา และใจ โดยมีจิตที่ยึดมั่นในศีลธรรม และคุณธรรม ถือว่าเป็นนวัตกรรมล้ำค่าที่ติดตัวคนไปจนชั่วชีวิต ดังนั้น จึงต้องมีการสืบสาน รักษา ให้คงอยู่กับตัวคนตลอดไป โดยกระบวนการในการอบรมได้รับการถ่ายทอดจากวิทยากรมืออาชีพ อาทิ พระวิทยากรจากมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและคณะ คุณแม่ศิริ กรินชัย ครู อาจารย์ที่สอนด้านศีลธรรมจากสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทั้งนี้เพื่อให้นักศึกษาที่ผ่านการอบรมเป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่เกิดจากใจ และแสดงออกมาให้เห็นถึงบุคลิกภาพที่ดีทั้งภายใน ภายนอก นอกจากนี้ยังสามารถทำความดีในลักษณะนวัตกรรมความดีที่ถูกต้อง ซึ่งนักศึกษาจะได้รับการพัฒนาให้มีคุณลักษณะที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด และลงมือปฏิบัติโครงงานคุณธรรม แต่ละระดับชั้นได้ด้วยตนเอง ตลอดจนมีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและต่อสังคมส่วนรวม เกิดความมีวินัย มีจิตอาสา มีน้ำใจ มีความเสียสละ ประหยัดอดออม ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งนวัตกรรมความดีนี้ ต้องปฏิบัติตั้งแต่ระดับผู้บริหารลงมาถึงผู้เรียน ผู้บริหารจะต้องยึดแนวทาง "สอนให้รู้ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น คิดให้เป็น ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ฝึกสอน" ด้านการบริหารจัดการต้องดำเนินการเป็นขั้นตอน คือ "ให้เนื้อหา พาฝึกกิจกรรม คิดทำพัฒนาปรับปรุงแก้ไข ใช้วิถีเศรษฐกิจพอเพียง" จากนั้นนำสู่การปฏิบัติ ได้แก่ "สงบใจทบทวน ระลึกถึงการทำดี ฝึกคิดไตร่ตรองปัญหา นำพาคิดสร้างสรรค์ ค้นคว้าหาวิธีโดยการทำงานเป็นทีม" และต้องมีการใช้สื่อ อุปกรณ์ กระบวนการทำงานสนับสนุน ดังนี้ "ใช้ธรรมชาติทุกอย่างเป็นสื่อ มีการวางแผนล่วงหน้า นำเอาเหตุการณ์ปัจจุบันมาวิเคราะห์ จากนั้นนำสู่การสร้างสรรค์ปรุงแต่งให้เกิดเป็นรูปธรรม"
เลขาธิการฯ กล่าวปิดท้ายว่า โครงการนวัตกรรม R-Excellence เน้นความดี วิถีพุทธนี้จะมีการดำเนินการต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้ผู้บริหาร ครู และนักศึกษา ประพฤติตนอยู่ในหลักของการทำดี นอกจากจะสอนให้สวดมนต์ ทำสมาธิก่อนเรียน ก่อนทำงานแล้ว ยังสอนให้เรียนรู้จากปัญหา ใช้การรวมกลุ่มกันแก้ไขปัญหา มีการประเมินผลการทำงานแบบสังคมมิติ ซึ่งจะสอดคล้องกับทักษะแห่งอนาคต หรือการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นที่องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียนผ่านนวัตกรรมความดี เพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมและการทำงานที่มีความเปลี่ยนแปลงสูง
