คุณชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา นอกจากเราจะมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ก๊าซหุงต้ม LPG ที่มีคุณภาพ และการให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อเคียงข้างสร้างรอยยิ้มในการใช้ชีวิตให้คนไทยครอบคลุมทุกความต้องการทั่วประเทศ ทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การประกอบอาชีพ การช่วยเหลือชุมชนและสังคมแล้ว ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ยังได้จัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้และสร้างงานให้แก่ผู้คนในชุมชนใกล้เคียงบริเวณที่บริษัทตั้งอยู่ การสนับสนุนด้านการศึกษาผ่านการให้ทุนแก่เยาวชนซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ ให้เจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต รวมไปถึงการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เราจึงส่งเสริมและสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์โดยไม่มีข้อผูกพันใดๆ เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยได้รับการศึกษา เติบโตขึ้นมาอย่างมีศักยภาพมาอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 9 ปี ควบคู่ไปกับความใส่ใจต่อสุขภาพร่างกายของเด็กๆ ในการได้รับโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ ด้วยการสนับสนุนอาหารกลางวันและก๊าซหุงต้มให้กับโรงเรียนกว่า 48 โรงเรียน ซึ่งนับเป็นจำนวนนักเรียนกว่า 6,480 คน นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้จัดกิจกรรม "WP Energy Walk Rally เพื่อสังคม" ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมของบริษัท ได้มีโอกาสได้ร่วมส่งต่อพลังแห่งความดีร่วมกัน และที่สำคัญกิจกรรมเพื่อสังคมที่เราทำอย่างต่อเนื่องตลอดมา คือการสนับสนุนวงการอาหาร และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกอบอาชีพด้านอาหารในประเทศไทยอย่างยั่งยืนในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับภัตตาคาร สตรีทฟู้ด ไปจนถึงการอุปโภคบริโภคภายในครัวเรือน ด้วยวิสัยทัศน์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ประกอบอาชีพด้านอาหารในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งในปีที่ผ่านมา เราได้จัดทำโครงการ "The World's Best Street Food by Worldgas" เพื่อมอบรางวัลสุดยอดร้านอาหารริมทางที่โดดเด่นในเรื่องรสชาติจนได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ พร้อมรวบรวมร้านที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการระดับโลกมาแล้วมาให้ทั้งผู้บริโภคชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง นอกจากนี้เรายังเป็นผู้สนับสนุนรายการ Celeb Chef Thailand เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและยกระดับวงการอาหารในไทยด้วย"
"นอกจากนี้ อีกหนึ่งแคมเปญที่เราเริ่มต้นทำขึ้นในปีที่ผ่านมาคือการสร้างสรรค์แคมเปญ World Curated by WP Energy เพื่อสนับสนุนผู้มีความสามารถในวงการอาหาร และแฟชั่นไทย ให้ได้มีโอกาสในการนำเสนอผลงานให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศไทยและระดับโลก แคมเปญนี้เริ่มต้นด้วยงานแฟชั่นโชว์ World Curated By WP Energy x Thai Designers x Wang Hinghoi ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของการผสมผสานระหว่างแฟชั่นและอาหารเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เสมือนเป็นการตอบแทนสังคมบนแนวความคิด Power Up Your Life อันเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ"
"และในปีนี้ เราจึงได้ต่อยอดแคมเปญดังกล่าวร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแคมเปญ Bangkok Design Week 2020 x World Curated by WP Energy ที่จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Curated Charoen Krung กับการทำงานร่วมกันระหว่าง 5 แบรนด์ไทยอนาคตไกล กับ 5 เชฟชื่อดัง ที่มาร่วมกันทำงานที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละคนผ่านผลงานในสายวิชาชีพของตนเอง เพื่อผลักดันให้ 5 ร้านอาหารและคาเฟ่ในย่านเจริญกรุงสามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นตัวตนของผู้ประกอบการแต่ละร้านและสะท้อนเอกลักษณ์ของเจริญกรุงออกมาได้อย่างดีที่สุดในทุกรายละเอียด เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของงานออกแบบ รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับร้านอาหารในย่านเจริญกรุง ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์เคียงข้างสร้างรอยยิ้มที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด ซึ่งแคมเปญนี้ บริษัททำงานร่วมกับดีไซน์เนอร์และเชฟมาอย่างยาวนานในรูปแบบพันธมิตรอย่างแท้จริง ไม่ได้แค่ในเรื่องของการสนับสนุนเรื่องเงินทุนเท่านั้น แต่ให้ความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยมีโจทย์สำคัญคือ สิ่งที่เราร่วมกันสร้างสรรค์ต้องเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ สามารถใช้งานได้จริง อย่างยั่งยืน และจะต้องสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ประกอบการแต่ละร้าน และเอกลักษณ์ของย่านเจริญกรุงได้มากที่สุด" คุณชมกมล กล่าวต่อก่อนปิดท้ายว่า "ในอนาคต ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่จะยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมตามวิสัยทัศน์เคียงข้างสร้างรอยยิ้ม สนับสนุนการใช้ชีวิต และการประกอบอาชีพโดยเฉพาะด้านอาหารของคนไทยต่อไปแน่นอน"
แคมเปญ Bangkok Design Week 2020 x World Curated by WP Energy เป็นการทำงานร่วมกันของ 5 แบรนด์ไทยชื่อดัง ได้แก่ วิคธีร์รัฐ (Vickteerut), ทีแอนด์ที (TandT), เจนสุดา (Janesuda), ปัญญา พีเจ (Panya PJ) และวิณ ภทรฤน (Vinn Patararin) ที่จะมาร่วมสร้างเอกลักษณ์ผ่านการออกแบบองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้าน ชุดยูนิฟอร์มพนักงาน หรือแพคเกจจิ้งต่าง ๆ ฯลฯ ของร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ในย่านเจริญกรุงจำนวน 5 ร้าน ได้แก่ ร้านวัวทอง โภชนา, Heiji (เฮจิ), JUA(จั่ว), To more(ทู มอร์) และ REI (เร) ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น พร้อมกับมี 5 เชฟชื่อดังอย่าง เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล, เชฟฟาง- ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช, เชฟตาม Top Chef Thailand, เชฟชิ้ง-กนกวรรณ อัศวานุชิต และเชฟพุฒิ-พุฒิธนัตถ์ ไชยอภินันท์ฐากุล ที่จะมาร่วมพัฒนาคอนเซ็ปต์เมนูพิเศษที่สะท้อนเอกลักษณ์ของร้านค้าและคาเฟ่ทั้ง 5 ร้านเพื่อให้เป็นเมนูใหม่ที่จะถูกนำมาขายจริงตั้งแต่แคมเปญนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ในแคมเปญนี้ยังได้รับเกียรติจากคุณดวงฤทธิ์ แคล้วปลอดทุกข์ ฟู้ดสไตลิสต์ ชื่อดังที่ร่วมฝากผลงานการทำฟู้ดสไตลิสต์ให้กับแคมเปญในครั้งนี้ด้วย
ความร่วมมือระหว่าง 5 ร้านอาหาร 5 แบรนด์ไทยรุ่นใหม่ และ 5 เชฟชื่อดัง เกิดเป็นผลลัพธ์ที่พิเศษที่สุด ดังนี้
วัวทองโภชนา X Vickteerut X เชฟชิ้ง
เมนูหมี่พันวัวทองคำ โดยเชฟชิ้ง-กนกวรรณ อัศวานุชิต ฟู้ดบล็อกเกอร์สาวสวย เจ้าของเพจผู้หญิงทำอาหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย FashionOnFood ในงานนี้เชฟชิ้งได้สร้างสรรค์เมนูยั่วใจในสีสันสดใส ใช้วัตถุดิบขึ้นชื่อของทางร้านวัวทองโภชนา อันเป็นที่รู้จักในนามร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรชิงเต่า ในโลเคชั่นสุดลึกลับของย่านนี้ โดยมีดีไซเนอร์ไทยอย่างอรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ จากแบรนด์ Vickteerut ที่นำเอาความเรียบโก้มาถักทอไว้ด้วยรายละเอียด นำเสนอออกมาเป็น Interactive Media แบบ AR ผ่านมือถือของทุกท่านได้ ท้าทายกับประสบการณ์ใหม่ที่รอเซอร์ไพรส์ทุกคน
Heiji X TandT X เชฟพุฒิ
เมนูชาแดงเลมอนเนดใบไทม์ไซรัป / ขนมโป๊งเหน่ง เรดเวลเวท ช๊อกโกแลต ลาวา โดยเชฟพุฒิ พุฒิธนัตถ์ ชยอภินันท์ฐากุล เชฟหนุ่มหล่อไฟแรงดีกรีผู้ชนะจาก Celeb Chef Thailand ซีซั่น 1 รายการทำอาหารบนโลกออนไลน์แบบเต็มรูปแบบรายการแรกของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาร้านอาหารหลายแห่ง และเป็นเจ้าของกิจการ Catering ด้วยอายุเพียง 23 ปี ในงานนี้ เชฟพุฒิจับเอาความทรงจำของเด็กรุ่นก่อนมานำเสนอผ่านเมนูเหมือนกับร้าน Heiji คาเฟ่ที่ชุบชีวิตตึกเก่าย่านเจริญกรุงให้กลับมาสนุกสนานอีกครั้งนั่นเอง พร้อมทั้งมีดีไซเนอร์ไทยผู้เป็นที่น่าจับตามองที่สุดแห่งยุคอย่างธนาวุฒิ ธนสารวิมล จากแบรนด์ TandT มาร่วมปลุกพลังสร้างสรรค์ให้โชติช่วงกว่าเคยในย่านแห่งนี้ โดย TandT ได้เลือกภาพยนตร์เรื่อง Willy Wongka and The Chocolate Factory จากปี 1971 เพื่อมาฉายในร้าน ดึงความแตกต่างของวัฒนธรรมของงานวัดแบบไทยๆ เข้ามาผสมผสาน แต่ยิ่งนำพาทุกท่านให้ย้อนกลับไปในความทรงจำแสนหวาน
JUA X Janesuda X เชฟตาม
เมนูโพ๊คเกะปลาฮามาจิ ดอกเก็กฮวยออร์แกนนิก ยูสุ และ ดอกขิง / เจลลี่กุหลาบออร์แกนิกจากเชียงดาว ไวท์ช็อกโกแลต สาเกจุนไม และ ลิ้นจี่โดย เชฟตาม ชุดารี เทพาคำ ท็อปเชฟแห่งเมืองไทยที่มีฝีไม้ลายมือเรื่องการเนรมิตอาหารท้องถิ่นให้น่าทึ่งสู่สายตาในระดับอินเตอร์อย่างหาตัวจับได้ยากโดยได้คิดค้นเมนูนี้เพื่อมอบให้กับร้าน JUA โดยเฉพาะ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวน่าอัศจรรย์ใจไปกับอินสตอลเลชั่นรูปปลาหมึกยักษ์สุดอลังการที่รังสรรค์ขึ้นด้วยดอกไม้หลากสีสันสะท้อนความเป็นร้านซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นของ JUA แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความสดใสของดีไซเนอร์ไทยสาวมากรายละเอียดเจนสุดา ปานโต จากแบรนด์ Janesuda ควบคู่กับการรังสรรค์แฟชั่นคอลเลคชันสุดพิเศษเพื่อร้านนี้โดยเฉพาะ
To More X Panya PJ X เชฟฟาง
เมนูแคปหมูหม่าล่ากับปลาหมึกบดราดซอส / แซงเกรีย โดยเชฟฟาง-ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช พร้อมดีกรีจากสถาบัน French Culinary Institute สาขา Culinary Art แห่งมหานครนิวยอร์ก และการเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการอาหารชื่อดังที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งจากความเก่งกาจของเขา โดยในงานนี้เชฟฟางขอรับอาสาสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่เพื่อร้าน To More โดยเฉพาะ โดยมีดีไซเนอร์ไทยรุ่นเก๋าผู้คร่ำหวอดในวงการมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมายอย่างปัญญา จิตรมานะศักดิ์ จากแบรนด์ Panya PJ มาร่วมสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ทุกศาสตร์สัมผัสตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เข้ามาในร้านแห่งนี้ โดยใช้เทคนิคการจับเดรปผ้าสีแดงเลือดนกที่ได้แรงบันดาลใจจากการตกแต่งโรงละครแบบ Theatre Musical มาสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้
REI X Vinn Patararin X เชฟแอนดี้
เมนูแก้มปลาบุริย่างซีอิ๊วไทยกับข้าวชาวนา / ยำแซลมอน โดย เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล (Michelin Star) เป็นการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบท้องถิ่นกับวัตถุดิบต่างประเทศให้ใช้เอกลักษณ์รสของตนเองชูรสชาติซึ่งกันและกันได้รสกลมกล่อมเข้ากันเป็นอย่างดี รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษให้กับร้าน REI โดยมีดีไซเนอร์ไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องการผสมผสานเทคนิคงานคราฟต์กับเทคโนโลยีอย่างวิณ โชคคติวัฒน์ และภทรฤณ พงษ์ประสิทธิ์ จากแบรนด์ Vinn Patararin มาสร้างสีสันควบคู่กับการจัดแสงแบบ Asian Light ที่ให้ความรู้สึกลึกลับ เข้ากับเทคนิคการใช้เหล็กในการตกแต่งเพื่อสะท้อนถึงอาชีพของชุมชนในแถบนั้น โดยนี่ยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Vinn Patararin ทำงานวิชวลอาร์ตฉาย Mapping ให้กับร้านเพื่อเล่าเรื่องราวของร้านและวัตถุดิบ เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ในระหว่างลิ้มรสเมนูพิเศษเมนูนี้ด้วย