“คุณภาพดินที่บ้านตะปังนั้น เป็นชุดดินตากใบ ดินบนมีเนื้อดินเป็นดินร่วนปนทรายแป้งหรือดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง ดินล่างมีเนื้อดินเป็นดินร่วนเหนียวปนทรายแป้งหรือดินร่วนปนดินเหนียว ทำให้มีปฏิกิริยาเป็นกรดจัดมาก โดยมีค่า pH4.5 ทางกระทรวงเกษตรฯ โดยทางกรมพัฒนาที่ดินจึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่นาร้าง เพื่อให้ทางเกษตรกรปลูกปาล์มน้ำมัน และปลูกพืชอาหารสัตว์ โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้ปูนโดโลไมท์ อัตรา 500 กก/ไร่ ร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา60 กก/ต้น พร้อมทั้งใช้น้ำหมักชีวภาพร่วมด้วย พบว่าดินมีไส้เดือนเพิ่มขึ้น และทำให้มีผลผลิตเฉลี่ย 3 ตัน/ไร่/ปี ” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้ ปูนโดโลไมท์จะช่วยปรับค่ากรด-ด่างของดิน ในดินที่มีสภาพเป็นกรด คือ ค่ากรด-ด่าง (พีเอช, pH) น้อยกว่า5.0 จะส่งผลให้ธาตุอาหารที่อยู่ในดินหรือจากการใส่ปุ๋ย ละลายออกมาได้ไม่ดี ทำให้รากพืชดูดไปใช้ได้น้อย หรือมีความเป็นประโยชน์ต่ำ พบว่าถ้าค่า pH ของดินเท่ากับ 5.0 ประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยของต้นพืชจะเหลือเพียง 46% และในปี 2561 ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปูนโดโลไมท์อัตรา 500 กก./ไร่ ตามค่าวิเคราะห์ดิน พบว่าในปี2562 ดินมี pH เพิ่มขึ้นจาก 4.5 เป็น 5.0 พร้อมทั้งในพื้นที่บ้านตะปังเป็นที่ตั้งวิสาหกิจชุมชน (กลุ่มผู้ผลิตปุ๋ยอินทรีย์) ซึ่งได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการทำปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงใช้เองภายในสมาชิก และจำหน่ายให้แก่เกษตรกรที่สนใจ โดยปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 74 ราย