กระทรวง อว. เสนอ 6 มาตรการสู้ศึกโควิด-19 เตรียมส่งมอบชุดตรวจโควิด 1 ล้านชิ้นลดต้นทุนการผลิต 40% เหลือชุดละ 1,000 บาท

อังคาร ๑๗ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๕:๕๗
กระทรวง อว. เสนอ 6 มาตรการสู้ศึกโควิด-19 เตรียมส่งมอบชุดตรวจโควิด 1 ล้านชิ้นลดต้นทุนการผลิต 40% เหลือชุดละ 1,000 บาท เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจง่ายขึ้น ทั้งสั่งการเครือข่ายโรงพยาบาลฯ เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลของโรงเรียนแพทย์ เตรียมพื้นที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนามกรณีเกิดการระบาดในวงกว้าง ทุกมหาวิทยาลัยลดความเสี่ยงปิดมหาวิทยาลัยในช่วงที่จะมีการระบาดเรียนออนไลน์แทนระบบปกติ ภายใน 1 เมษายนนี้
กระทรวง อว. เสนอ 6 มาตรการสู้ศึกโควิด-19 เตรียมส่งมอบชุดตรวจโควิด 1 ล้านชิ้นลดต้นทุนการผลิต 40% เหลือชุดละ 1,000 บาท

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า กระทรวง อว. เสนอ 6 มาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2563 โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการลดการเคลื่อนไหวบุคคล ป้องกันการแพร่ระบาด ได้แก่

มาตรการการบริหารจัดการดูแลนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัย : ปรับรูปแบบการเรียนการสอนจากระบบปกติเป็นระบบออนไลน์ปิดมหาวิทยาลัยภายใน 2 สัปดาห์ โดยต้องดำเนินการครบทุกมหาวิทยาลัยให้ใช้การสอนออนไลน์ ภายในวันที่ 1 เมษายน 2563 โดยจะต้องเตรียมการด้าน infrastructure เพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้งานระบบที่เพิ่มขึ้น และจัดเตรียม platform กลางเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ปรับและให้เลื่อนหรือยกเลิกการสอบ การฝึกงาน งดกิจกรรมเพื่อลดการสัมผัสเชื้อมาตรการการทำงานสำหรับบุคลากรในสังกัดกระทรวง : บริหารจัดการให้มีการทำงานที่บ้าน (work at home) โดยการสั่งการให้เกิดการทำงานที่บ้าน (work at home) เพื่อลดการเดินทางและลดการสัมผัสเชื้อให้มากที่สุด สำหรับงานที่ต้องมีการปฏิบัติการ ให้ปฏิบัติการด้วยประสิทธิภาพเท่าเดิม แต่ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือ บริหารจัดการให้มีความเหมาะสมตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศ และงดกิจกรรมของทุกหน่วยงานที่ต้องมีคนจำนวนมากเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลของโรงเรียนแพทย์ ให้เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข : โดยสั่งการให้เครือข่ายโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) ประสานงานกับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อย่างใกล้ชิดในประเด็นของขั้นตอนและแนวปฏิบัติที่เหมาะสม (best practice) ตั้งแต่ผู้ป่วยเข้าสู่โรงพยาบาลไปจนถึงการรักษา แผนการส่งต่อผู้ป่วย การดูแลผู้ป่วย การลดผู้ป่วย elective การเตรียมหอผู้ป่วย การเตรียม ICU เครื่องช่วยหายใจ จำนวนบุคลากรทางการแพทย์ และห้องแยกพิเศษ พร้อมเตรียมการรองรับกรณีเกิดการระบาดในวงกว้าง เตรียมพื้นที่รองรับเพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เช่น โรงยิม และหอประชุมของมหาวิทยาลัย เป็นต้น

รวมทั้งประสานงานกับ BOI เพื่อปลดล็อคในประเด็นปัญหาการขาดแคลนชุดป้องกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (PPE) และหน้ากากอนามัย พร้อมพิจารณาปลดล็อคระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างจากกรมบัญชีกลาง ในประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างสิ่งของที่ขาด และหายาก ที่ไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ตามราคาที่กำหนดจัดทำระบบบริหารความเสี่ยงด้วยนวัตกรรม พร้อมพัฒนาต่อยอดเป็นระบบปฏิบัติการถาวรที่หน่วยงานใน อว. ในการเชื่อมกับทุกภาคส่วน เพื่อรองรับสถานการณ์ในระยะยาวและเพื่อประโยชน์กับประชาชนในช่วงวิกฤติ : ได้แก่ 1) การพัฒนาระบบการติดตามและการตรวจสอบ โดยใช้แพลตฟอร์ม DDC-care 2) การใช้ระบบการแพทย์และสุขภาพทางไกล 3) ระบบแสดงตำแหน่งและจัดส่งสิ่งจำเป็นทางการแพทย์ (Logistics) และ 4) การบริหารจัดการด้านวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บ และการกระจายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นการสนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับ COVID-19: กระทรวง อว. โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดเตรียมกรอบงบประมาณ 250 ล้านบาท ในการจัดสรรทุนวิจัยใน 4 ประเด็นสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ 1) การศึกษาทางพันธุกรรมและทางชีววิทยาของไวรัสเพื่อความเข้าใจและติดตามการเปลี่ยนแปลงของเชื้อ (Whole genome sequencing) 2) ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อความเข้าใจการแพร่กระจายของเชื้อสำหรับการเตรียมรับมือการระบาด และการแพร่ระบาดของไวรัส (Computer simulation and modeling) 3) การพัฒนาวิธีการวินิจฉัย และการผลิตชุดตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ รวดเร็ว และเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ (Laboratory diagnostics) โดยร่วมกับบริษัทสยามไบโอไซน์ ในการผลิตชุดตรวจโควิด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจง่ายขึ้นและเพียงพอต่อความต้องการ โดยจะส่งมอบทั้งหมด 1 ล้านชิ้น ภายในระยะเวลา 6 เดือน จากปัจจุบันที่มีความต้องการในการใช้เฉลี่ย จำนวน 4,000 ชิ้น/วัน และคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนการผลิตเฉลี่ยประมาณ 40% เหลือเพียงประมาณ 1,000 บาท จากเดิมราคาประมาณ 4,000 บาท 4) การวิจัยในด้านอื่นๆ ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปการสนับสนุนในด้านอื่นๆ โดยมุ่งเน้นในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์เป็นหลัก อาทิ หน้ากากอนามัยจากแผ่นกรองเส้นใยสมบัติพิเศษต้านเชื้อไวรัสและฝุ่น PM 2.5, หน้ากากผ้าแบบซักได้, หุ่นยนต์ช่วยประเมินผู้ป่วย และแนวทางการใช้ข้อมูลแผนที่กลางของประเทศด้วยระบบ NGIS

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๓๙ สมาคมธนาคารไทย ออกแนวทางช่วยเหลือเพิ่มเติม เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบางทั้งลูกค้าบุคคลและSME
๑๔:๐๒ ผู้ลงทุนเชื่อมั่น โลตัส (Lotus's) จองซื้อหุ้นกู้เต็มจำนวน 9 พันล้านบาท
๑๔:๑๕ สมัครบัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า รูดช้อปรับคุ้ม! รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%
๑๔:๔๘ MASTER ประชุมผู้ถือหุ้นปี 67 ผ่านฉลุย ไฟเขียวจ่ายปันผล เดินหน้าสร้างโอกาสโตตามกลยุทธ์ MP
๑๔:๔๓ ธนาคารกรุงเทพ จับมือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงนาม MOU ส่งเสริมการผลิตบุคลากร-พัฒนาศักยภาพ-ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล
๑๔:๒๐ ITEL จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. เห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผลอัตรา 0.0696 บ./หุ้น
๑๔:๒๙ ไทยพาณิชย์ ตอกย้ำกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch เปิดตัว โปรจีน อาฒยา นักกอล์ฟหญิงระดับโลก เป็น Brand
๑๔:๓๐ KCG จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 พร้อมอนุมัติจ่ายปันผล 0.30 บาทต่อหุ้น
๑๔:๔๙ บาฟส์ ประกาศความสำเร็จ ลุยขยายโครงข่ายขนส่งน้ำมันทางท่อ เชื่อมต่อเครือข่ายพลังงานทั่วไทย
๑๔:๓๙ บีโอไอจับมือพันธมิตร จัดงาน SUBCON Thailand 2024