องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เผยวงจรค้าสัตว์เลื้อยคลานระดับโลก เต็มไปด้วยความทารุณและเป็นแหล่งเพาะโรคร้าย

ศุกร์ ๑๗ เมษายน ๒๐๒๐ ๑๑:๔๗
ปัจจุบันสัตว์ป่านานาชนิดจำนวนนับล้านตัว กำลังถูกคุกคามและตกเป็นเหยื่อในธุรกิจค้าสัตว์แปลกทั่วโลกที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการลดจำนวนลงของประชากรสัตว์ป่าทั่วโลก ล่าสุด องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ได้จัดทำสารคดีชื่อว่า “Ball pythons are wildlife #NotPets” เพื่อแจ้งเตือนเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในสัตว์เลื้อยคลาน คือ งูหลามบอลแอฟริกา (African Ball Pythons) ซึ่งมีการซื้อขายเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงมากที่สุดในทวีปแอฟริกา โดยในสารคดีได้เปิดเผยความน่าตกใจของอุตสาหกรรมลักลอบจับสัตว์ป่าพบว่าในช่วงระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมามี “งูหลามบอล” มากกว่า 3 ล้านตัวถูกส่งออกจากแอฟริกาตะวันตก เพื่อนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยงยัง 3 ทวีป ได้แก่ ยุโรป เอเชีย และอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสัตว์เลื้อยคลานรายใหญ่ที่สุดของโลก
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เผยวงจรค้าสัตว์เลื้อยคลานระดับโลก เต็มไปด้วยความทารุณและเป็นแหล่งเพาะโรคร้าย

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เผยว่า “การค้าสัตว์ป่าเป็นเสมือนระเบิดเวลาสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของมนุษย์” เนื่องจากสัตว์ที่ถูกจับมาจากป่าธรรมชาติ หรือถูกเพาะพันธุ์ในกรงขังแคบๆ ภายใต้สภาพแวดล้อมสกปรก เสื่อมโทรม อาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคที่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต และในขณะเดียวกันก็สร้างความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานอย่างโหดร้ายต่อสัตว์ป่าเช่นกัน

จากการสำรวจพบว่าการค้าขายสัตว์เลื้อยคลานคิดเป็น 20% ในธุรกิจค้าสัตว์แปลกทั่วโลก ยังคงเป็นสัตว์ที่มักถูกเข้าใจผิดมากที่สุดประเภทหนึ่ง และผลจากการประเมินพบว่ามีงูมากกว่า 5,000 ตัวที่อยู่กับนักเพาะพันธุ์สัตว์ในอเมริกาเหนือและสหภาพยุโรป ถูกดูแลโดยไม่ได้มาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เหมาะสม เนื่องจากพวกมันถูกเลี้ยงอยู่ในภาชนะพลาสติกหรือกล่องแก้วขนาดไม่ใหญ่กว่าตัวมันนักเพื่อรอการจำหน่าย โดยเฉพาะงูหลามบอล ที่มักมีภาพปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ขายสัตว์แปลก ร่วมกับสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ซึ่งมีผลมาจากมนุษย์มักคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ไม่มีความรู้สึกจึงไม่เจ็บปวดหรือทรมาน และจากชื่อของมันที่ว่า “งูหลามบอล” ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของมันที่มักขดตัวเองจนกลมแน่นคล้ายลูกบอลเมื่อเกิดความรู้สึกตึงเครียดหรือหวาดกลัว รวมถึงความเข้าใจผิดที่ว่า พวกมันเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องรับการดูแลเป็นพิเศษ ล้วนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกมันกลายมาเป็นสัตว์แปลกที่ถูกนิยมนำมาเลี้ยง

ใจความสำคัญของรายงานเรื่องนี้ ซึ่งทำการตรวจสอบในแอฟริกาตะวันตก สหภาพยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่า

กว่า 99% ของงูหลามบอลทั่วโลก นำเข้ามาจาก 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ โตโก เบนิน

และกานาการทำฟาร์มงูหลามบอล ในแอฟริกาตะวันตก มักเกิดจากการจับลูกงูหลามจากธรรมชาติ (โดยทำการขุดพวกมันออกจากโพรงอาศัย ก่อนจะยัดเข้าไปในกระสอบที่เต็มไปด้วยงูอื่นๆ) ซึ่งอาจส่งผลให้พวกมันเกิดการติดเชื้อโรค ทนทรมาน บาดเจ็บ และตายลงมีสัตว์แปลกมากกว่า 10 ล้านตัวที่ถูกเลี้ยงภายในบ้านทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาแห่งเดียวมีมากกว่า 51% ของสัตว์เลื้อยคลาน หรือประมาณเกือบ 9 ล้านตัวที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์งูหลามบอล เป็นสัตว์ที่มีความต้องการที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์โดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานแม้ต้องถูกเลี้ยงในสถานที่กักขัง รวมถึงต้องการพื้นที่เพื่อที่จะเหยียดตัวเต็มความยาวของลำตัว ซึ่งสถานที่เดียวที่พวกมันจะแสดงออกทางพฤติกรรมทางธรรมชาติได้ดีที่สุดก็คือในป่าการกักขังงูหลามบอล มักถูกจำกัดในพื้นที่ขนาดเล็กกว่าแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกมัน และโดยทั่วไปมักไม่สามารถเข้าถึงแหล่งน้ำ แหล่งอาศัย ถึงแม้ผู้เลี้ยงจะตกแต่งพื้นที่ให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือให้การดูแลพวกมันอย่างเหมาะสมก็ไม่สามารถทดแทนที่อยู่ตามธรรมชาติได้

ปัจจุบันสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้ร่วมผลักดันให้เกิดกระแสความนิยมให้กลุ่มผู้ซื้อ ซึ่งส่งผลต่อการค้าสัตว์แปลกที่โหดร้าย โดยมีช่องทางที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ Facebook, YouTube และ Instagram โดยร้านค้าสัตว์เลี้ยงและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเหล่านี้ยังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของผู้ซื้อและตลาดที่เกิดขึ้นสำหรับสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ เช่น งูหลามบอล

การยุติห้ามค้าสัตว์ป่าทั้งหมดเป็นการแก้ปัญหาเพียงทางเลือกเดียวที่เหมาะสมที่สุด ทั้งเพื่อปกป้องสัตว์ป่า ช่วยให้สัตว์ป่าไม่ต้องถูกกักขังอย่างทรมาน และช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อและเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย ทั้งนี้จากการระบาดของ “ไวรัสโคโรนา” และการระบาดของการติดเชื้อ “ซาลโมเนลลา” เป็นตัวชี้ให้เห็นว่าการที่สัตว์ป่ามีความตึงเครียดและได้รับบาดเจ็บ สามารถส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของมนุษย์ได้ ดังนั้นการดำเนินงานเพื่อยุติการค้าสัตว์แปลกจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงแต่เพื่อสวัสดิภาพและความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ แต่ยังเพื่อปกป้องสุขภาพของมนุษย์เองด้วย

Edith Kabesiime ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก แอฟริกา กล่าวว่า “ตอนนี้เราเริ่มเห็นผลกระทบจากการแสวงหาผลประโยชน์จากประชากรงูโดยธรรมชาติที่โหดร้าย และความทุกข์ทรมานจากสัตว์ป่าที่ต้องถูกพรากจากถิ่นที่อยู่เดิม และถูกจับยัดลงในกระสอบเพื่อนำมาเพาะพันธุ์ในที่กักขัง ซึ่งไม่ใช่วิถีชีวิตที่สัตว์ป่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการค้างูหลามบอลแอฟริการะหว่างประเทศ นับเป็นแหล่งรายได้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับชุมชนท้องถิ่นบางแห่ง แต่ในอนาคตเมื่องูหายไปหมด เงินก็จะหมดลงเช่นกัน ซึ่งจากการระบาดของไวรัส โคโรนา ทำให้เราก็เริ่มตระหนักถึงค่าใช้จ่ายในช่วงวิกฤต เนื่องจากความต้องการสัตว์เลี้ยงหรูหราเริ่มกลายเป็นราคาที่แพงเกินคุ้ม”

Cassandra Koenen หัวหน้าแคมเปญสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า “การค้างูหลามบอล ซึ่งเป็นสัตว์แปลกที่ได้รับความนิยมมากในตลาดสัตว์แปลกขนาดใหญ่ทั่วโลก กำลังส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่านับล้านตัวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งงูเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกเข้าใจผิดกันมากที่สุด ทำให้สัตว์ป่าเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างโหดร้ายจากการถูกจับไปกักขัง”

“ไม่ว่าจะเป็นการค้าที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย การมีสัตว์ป่าไว้เป็นสัตว์เลี้ยงถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย อีกทั้งผู้ขายงูหลามบอลในอเมริกาเหนือและยุโรป ส่วนมากมักไม่ผ่านมาตรฐานการดูแลสัตว์ขั้นต่ำ โดยงูเหล่านี้ต้องถูกยัดลงไปในภาชนะพลาสติกขนาดเล็ก คับแคบ ไม่มีแม้ที่ว่างให้ขยับตัวเคลื่อนที่ และไม่มีน้ำ ที่พักพิง หรือสภาพแวดล้อมที่จำเป็นสำหรับการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย สภาพความเป็นอยู่ที่หดหู่เช่นนี้คือการทรมานสัตว์ทั้งสิ้น ซึ่งผู้ขายอาจจะลืมไปว่างูเหล่านี้เป็นสัตว์ป่า ไม่ใช่สินค้า และสัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง พวกมันสมควรที่จะได้อยู่ในป่าตามธรรมชาติ” Cassandra กล่าวปิดท้าย

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เรียกร้องให้ผู้คนไม่ซื้อหรือเพาะพันธุ์ งูหลามบอล เพื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เพราะชีวิตที่ถูกกักขังของงู เป็นโลกที่โหดร้ายและต่างจากชีวิตในป่าอย่างมาก ร่วมลงชื่อยุติการซื้อขายสัตว์แปลก และไม่นำสัตว์แปลก เช่น งูหลามบอล มาเป็นสัตว์เลี้ยง ได้ทาง https://www.worldanimalprotection.or.th/buy-exotic-pets

(เครดิตภาพประกอบ World Animal Protection / Aaron Gekoski

ชมสารคดี “Ball pythons are wildlife #NotPets” https://tinyurl.com/ycaz23sk

เกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก หรือ World Animal Protection เป็นองค์กรเพื่อคุ้มครองปกป้องสวัสดิภาพสัตว์ และยุติการทารุณกรรมสัตว์อย่างถาวร โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 มีบทบาทในการให้คำปรึกษากับองค์การสหประชาชาติและสภายุโรป ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ สร้างความแตกต่างให้สัตว์ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ถูกทารุณกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยดำเนินงานครอบคลุมทั้งสัตว์ในชุมชน – สุนัข , สัตว์ป่า, สัตว์ประสบภัยพิบัติ - ช่วยเหลือสัตว์ในภาวะภัยพิบัติ การจัดหาอาหาร ที่อยู่และยารักษาโรคให้กับสัตว์, สัตว์ในฟาร์ม รวมถึงการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์ที่มีมนุษยธรรมอันส่งผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนและสัตว์ ข้อมูลเพิ่มเติม www.worldanimalprotection.or.th

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เผยวงจรค้าสัตว์เลื้อยคลานระดับโลก เต็มไปด้วยความทารุณและเป็นแหล่งเพาะโรคร้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้