นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้และการลดความเหลื่อมล้ำ ผ่านการขับเคลื่อนนโยบาย การจัดกิจกรรม และการผลักดันโครงการต่างๆ โดยหนึ่งในโครงการ คือ การสนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าในทุกภูมิภาคของประเทศ หรือที่เราเรียกว่า “หอการค้าแฟร์ หรือ TCC Fairs” เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจของท้องถิ่น ซึ่งปีที่ผ่านมาได้จัดงาน TCC Fairs ขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ และขอนแก่น โดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงสนใจเข้าชมงานจำนวนมาก
งานครั้งนี้ที่สยามพารากอน หอการค้าไทยต้องการส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการในต่างจังหวัด ได้มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ และผลไม้ ซึ่งเป็นของดีหรือของที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ เราเชื่อมั่นว่า นอกจากจะช่วยกระจายรายได้และลดความเหลื่อมล้ำแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย ที่สำคัญยังช่วยสร้างโอกาสให้เกษตรกรและผู้ผลิตได้พบกับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ขณะที่ผู้บริโภคก็มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าที่ดีและมีคุณภาพ”
นายธวัชชัย เศรษฐจินดา กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย ในฐานะประธานการจัดงานฯ กล่าวว่า “การจัดงานครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทย กับบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และศูนย์การค้าสยามพารากอนที่ได้อนุเคราะห์พื้นที่พาร์ค พารากอน ให้เป็นสถานที่จัดงาน เพื่อนำเสนอสินค้าที่เป็นของดีจาก 5 ภาคมาจัดจำหน่าย โดยหมุนเวียนเป็นรายภาค ตั้งแต่วันที่ 2-26 กรกฎาคม 2563 รวมระยะเวลาการจัดงาน 25 วัน ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้าที่มาร่วมงานกว่า 160 ราย จากทั่วประเทศนั้น ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งจากหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ที่ได้คัดสรรสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดมาร่วมงาน อาทิ ผลไม้ สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าอุปโภคบริโภค และของฝากของที่ระลึก เป็นต้น”
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ในวันนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ได้กระตุ้นจิตสำนึกให้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญในแนวทางการดำรงชีวิตเพื่อความยั่งยืนอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นการสร้างระบบนิเวศของธุรกิจค้าปลีก (Retail Ecosystem) ที่สร้างความสำเร็จร่วมกันระหว่างผู้บริโภค ผู้ประกอบการร้านค้าหรือกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ชุมชนสังคมและประเทศ และวิกฤตการณ์ในครั้งนี้จะเป็นจุดสำคัญที่ก่อให้เกิดการร่วมแรงร่วมใจของคนไทยทั้งชาติ ที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนคนไทยด้วยกันเอง เราจึงขอนำรอยยิ้มให้กลับคืนสู่สยามเมืองยิ้ม โดยร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ เปิดพื้นที่พิเศษเพิ่มเติมช่วยเหลือเกษตรกรในกิจกรรม ไทยช่วยไทย คือไทยเท่ @ ยิ้มไปด้วยกัน นอกจากจะช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรและผู้ผลิตโดยตรงเพื่อนำไปจุนเจือครอบครัวและชุมชนต่อไปแล้ว งานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อของคุณภาพส่งตรงจากสวนและแหล่งผลิตโดยตรงอีกด้วย”
สำหรับกิจกรรมการจัดงานครั้งนี้ได้รวบรวมผลผลิตจาก 5 ภาคทั่วประเทศไทย ดังนี้
วันที่ 2-8 ก.ค.63 ภาคกลางและภาคตะวันออก ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และสินค้าที่น่าสนใจ อาทิ อินทผลัมหลากหลายสายพันธุ์, ส้มโอ, เมล่อนปลอดสาร, ขนมไทยโบราณ, ปลากระพงยักษ์, ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย, ผ้าฝ้ายหมักโคลน ฯลฯวันที่ 9-14 ก.ค.63 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และสินค้าที่น่าสนใจ อาทิ ทุเรียนภูเขาไฟ, แตงโมไร้เมล็ด, ข้าวโพดนมสดฮอกไกโด, น้ำพริกโบราณรสเด็ด, เนื้อโคขุนโพนยางคำ, ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ฯลฯวันที่ 15-20 ก.ค.63 ภาคเหนือ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และสินค้าที่สนใจ อาทิ ทุเรียนหลินลับแล, ทุเรียนหลงลับแล, เสาวรส, อโวคาโด้, ข้าว, สินค้าเกษตรแปรรูป, ปลาแดดเดียว, ผ้าไทย, ผ้าซิ่นตีนจก ฯลฯวันที่ 21-26 ก.ค.63 ภาคใต้ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และสินค้าที่น่าสนใจ อาทิ ส้มโอทับทิมสยาม, ข้าวสังข์หยด, หมูย่างเมืองตรัง, ปลากุเลาเค็ม, ซาลาเปาทับหลี ฯลฯ
พบกับผลไม้จากแหล่งผลิตที่ยกมาไว้ใจกลางเมือง และมาร่วมสร้างรอยยิ้ม เติมเต็มความสุข รวมพลังไทยช่วยไทย ให้กับเกษตรกรไทยได้กับกิจกรรม “ไทยช่วยไทย คือไทยเท่ @ ยิ้มไปด้วยกัน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-26 กรกฎาคม ศกนี้ ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อประเทศไทยจะกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้มที่เต็มไปด้วยพลังใจของคนไทยด้วยกันอีกครั้ง
