ม.มหิดล เปิดการศึกษา การรักษา และศูนย์วิจัยกระตุ้นสมองร่วมกับฝึกกายภาพบำบัดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และพาร์กินสัน เตรียมขยายผลบำบัดเด็กออทิสติก

ศุกร์ ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๒๐ ๑๐:๕๙
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และพาร์กินสัน (Parkinson) เป็นโรคที่ทำให้เกิดความพิการและสูญเสียงบประมาณของประเทศจำนวนมหาศาล จากค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาจากตัวผู้ป่วยเอง และผู้ดูแล (Caregiver) ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณสูงถึงล้านบาทต่อราย ตั้งแต่เริ่มเกิดโรคจนถึงเสียชีวิต
ม.มหิดล เปิดการศึกษา การรักษา และศูนย์วิจัยกระตุ้นสมองร่วมกับฝึกกายภาพบำบัดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และพาร์กินสัน เตรียมขยายผลบำบัดเด็กออทิสติก

จากการศึกษาวิจัยที่คร่ำหวอดในเรื่องการใช้เครื่องกระตุ้นสมองร่วมกับการฝึกกายภาพบำบัดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และพาร์กินสันมานานกว่า 10 ปี รองศาสตราจารย์ ดร.กภ.จารุกูล ตรีไตรลักษณะ คณบดีคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า การฝึกกายภาพบำบัดแบบเฉพาะเจาะจงเป็นเวลา 1 - 1.30 ชม.หลังจากการใช้เครื่องกระตุ้นสมองเป็นเวลา 20 นาที จะสามารถทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และพาร์กินสันสามารถช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นในชีวิตประจำวัน เช่น รับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หยิบของ ติดกระดุม หรือผูกเชือกรองเท้าได้

ปัญหาที่พบก่อนทำการรักษาด้วยการกระตุ้นสมองร่วมกับการทำกายภาพบำบัด พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีการเดินที่ผิดปกติ และใช้มือได้ใกล้เคียงปกติเพียงไม่เกินร้อยละ 20 จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ในขณะที่ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันหากมาพบนักกายภาพบำบัดในระยะแรกที่มีอาการ จะสามารถป้องกันอาการติดแข็ง ชะลอความเสื่อม และกลับมาเคลื่อนไหวได้มากขึ้น

รองศาสตราจารย์ ดร.กภ.จารุกูล ตรีไตรลักษณะ กล่าวต่อไปว่า นวัตกรรมดังกล่าวได้นำมาใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และพาร์กินสันที่ศูนย์กายภาพบำบัด และการเรียนการสอนนักศึกษาในระดับปริญญาโท-เอกของคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเราเป็นศูนย์วิจัยแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ที่ทำการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง และพาร์กินสันด้วยการกระตุ้นสมองร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และจะได้ขยายผลสร้างเป็น Innovation Platform เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเทศเนปาล กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมาร์ ตลอดจนได้มีการวางแผนจะเปิดศูนย์บริการร่วม (Excellence Center) ที่ประเทศอินโดนีเซียต่อไปในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ในอนาคตจะต่อยอดนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้บำบัดเด็กออทิสติกที่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว และการร่วมรู้สึก เช่น ยิ้มให้กันเพราะมีความสุข ร้องไห้เพราะเสียใจ จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนของระบบเซลล์กระจกเงา (Mirror Neuron System) ที่มักพบว่ามีความบกพร่องในเด็กออทิสติก แล้วฝึก Social Interaction เพื่อให้เด็กออทิสติกมีการเคลื่อนไหว และแปลผลการร่วมความรู้สึกได้ดีขึ้น

"นักกายภาพบำบัดต่างจากบุคลากรทางการแพทย์ในวิชาชีพอื่น ตรงที่เรามีเชี่ยวชาญทางด้านการเคลื่อนไหว และเป็นนวัตกรโดยสายเลือด หัวใจของเรา คือ การสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อพลิกฟื้นคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้สามารถมีการเคลื่อนไหว และกลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม และที่สำคัญ คือ สามารถช่วยลดงบประมาณของประเทศที่ต้องสูญเสียในการดูแลผู้ป่วยในระยะยาวได้" รองศาสตราจารย์ ดร.กภ.จารุกูล ตรีไตรลักษณะ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๒ SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,725 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
๐๘:๐๑ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดบ้านต้อนรับนักเรียนมัธยม โชว์หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์
๐๘:๔๗ ค่ายสมหวัง สร้างโอกาส รุ่นที่ 4 ขยายความรู้ทางการเงินสู่เครือข่ายคนรุ่นใหม่ต่อเนื่อง
๐๘:๕๓ ส่องสัญญาณฟื้นตัว ตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 2 รับผลบวกมาตรการรัฐกระตุ้นกำลังซื้อ - ยอดสั่งสร้าง
๐๘:๕๕ RSP จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห.ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.13 บ./หุ้น กำหนดจ่าย 15 พ.ค. นี้
๐๘:๕๒ SJWD รุกขยายฐานลูกค้าให้บริการ ขนย้ายพร้อมติดตั้งระดับพรีเมียม เซ็นสัญญารับงาน 'กลุ่มแอสเซทไวส์' นำร่องเซอร์วิสลูกบ้าน 6
๐๘:๓๘ ผถห. HLอนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 66 หุ้นละ 0.15 บ.
๐๘:๐๕ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ประกาศความพร้อมเปิดให้บริการ 27 กันยายน 2567 เตรียมมอบข้อเสนอพิเศษให้ผู้สำรองห้องพักล่วงหน้า
๐๘:๑๒ EXIM BANK จับมือเวฟ บีซีจี ผลักดันผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานสะอาดแก้ปัญหาโลกร้อน
๐๘:๒๒ สดช. เดินหน้าขับเคลื่อน Digital Literacy เริ่มจัดอบรม พ.ค. นี้ มุ่งเสริมเกราะประชาชนมีความรู้และเข้าใจดิจิทัล เพื่อเตรียมพร้อมสู่พลเมืองดิจิทัลปี