ความสำเร็จในการใช้ AlgaPrime DHA ในอาหารกุ้งช่วยส่งเสริมเป้าหมายของบริษัทไทยยูเนี่ยน ในการจัดหากุ้งที่มีแหล่งที่มาที่ยั่งยืนอย่างมีความรับผิดชอบให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำระดับโลกด้านอาหารทะเล และ Corbion ผู้นำตลาดโลกด้านส่วนประกอบจากสาหร่ายเพื่อผสมอาหารและอาหารสัตว์ ได้ประกาศวันนี้เรื่องการขยายการใช้ AlgaPrime DHA สาหร่ายส่วนผสมอาหารสัตว์ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ในอาหารกุ้ง หลังจากการทดลองใช้ในระดับใหญ่เมื่อปี 2562 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การขยายความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญสำหรับทั้งผู้เพาะเลี้ยงกุ้งและผู้ผลิตอาหารทะเลชนิดอื่น ๆ เนื่องจากถือเป็นความสำเร็จของการใช้ส่วนผสมทางเลือกสำหรับอาหารสัตว์ทะเลที่มีความยั่งยืนในวงกว้าง
กุ้งเป็นสัตว์ที่โตเร็วเป็นอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ปัจจุบันกุ้งจากฟาร์มมีสัดส่วนเป็น 55% ของการผลิตกุ้งทั่วโลก จึงเป็นโอกาสที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน การเพิ่มการใช้ AlgaPrime DHA โดยบริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) สะท้อนให้เห็นการให้ความสำคัญกับการใช้ส่วนผสมอาหารสัตว์ที่สามารถตรวจย้อนกลับได้ เชื่อถือได้ และมีกระบวนการผลิตอย่างยั่งยืน AlgaPrime DHA เป็นแหล่งทางเลือกของโอเมก้า-3 เนื่องจากเป็นส่วนผสมจากสาหร่ายที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ประเภท DHA อยู่ในระดับสูง ซึ่งสูงกว่าปริมาณกรดโอเมก้า-3 ที่มักพบในน้ำมันปลาทั่วไปถึงราวสองเท่า AlgaPrime DHA เป็นส่วนผสมสะอาดที่ผลิตอย่างยั่งยืนผ่านกระบวนการหมักน้ำตาลอ้อยที่ไม่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมเป็นวัตถุดิบตั้งต้น นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงกดดันที่มีต่อทรัพยากรทางทะเลและเพิ่มความมั่นคงด้านอุปทานของสารอาหารสำคัญสำหรับการพัฒนาและการเติบโตของกุ้ง
"บริษัทไทยยูเนี่ยนให้คุณค่ากับการพัฒนานวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมอาหารทะเลที่ยั่งยืน ในแง่นี้ เรามุ่งเสาะหาผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของเราอย่าง SeaChange" คุณแดเรียน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืน บริษัทไทยยูเนี่ยน กล่าว "การขยายความร่วมมือกับ Corbion ช่วยในการทำตามเป้าหมายของเราเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพในอาหารสัตว์ ประกอบกับการใช้น้ำมันและโปรตีนทางเลือก การร่วมมือกับ Corbion ช่วยให้เราสามารถผลิตอาหารสัตว์ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงสุด ตลอดจนมีความสม่ำเสมอและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานให้แก่เครือข่ายผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง"
SeaChange(R) ยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของบริษัทไทยยูเนี่ยน มุ่งขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาที่มีความหมายในทั่วทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลก โดยเฉพาะในแง่ของการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ การใช้ AlgaPrime DHA เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ของไทยยูเนี่ยน เป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในการจัดหากุ้งที่มีการเพาะเลี้ยงอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืนเข้าสู่ตลาด
"เราตื่นเต้นที่ได้ขยายการใช้ AlgaPrime DHA ในอาหารกุ้งภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทไทยยูเนี่ยน" คุณ Chris Haacke หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำระดับโลก บริษัท Corbion กล่าว "AlgaPrime DHA พัฒนาขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการเสนอทางออกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงให้แก่ผู้เพาะเลี้ยงและผู้ผลิตอาหารทะเล"
ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา บริษัท Corbion ได้ผลิต AlgaPrime DHA ในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งสอดรับกับความต้องการในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
เกี่ยวกับ Corbion
Corbion เป็นผู้นำตลาดระดับโลกด้านกรดแลคติก อนุพันธ์กรดแลคติก และเป็นบริษัทชั้นนำด้านอิมัลซิไฟเออร์ ส่วนผสมเอนไซม์ที่มีประโยชน์ แร่ธาตุ วิตามิน และส่วนผสมที่ทำจากสาหร่าย เราใช้ความเชี่ยวชาญอันโดดเด่นในการหมักและกระบวนการอื่น ๆ เพื่อมอบโซลูชันที่มีความยั่งยืนสำหรับการถนอมอาหาร ยกระดับการผลิตอาหาร สุขภาพ และโลกของเรา เป็นเวลากว่า 100 ปีที่เรายืนหยัดในพันธกิจด้านความปลอดภัย คุณภาพ นวัตกรรม และประสิทธิภาพ เรานำความรู้อันลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มาทำงานเคียงข้างลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของเราอย่างได้ผลจริง วิธีการของเราช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้านและส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์สารอาหารสัตว์ เภสัชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ และพลาสติกชีวภาพ ในปี 2562 บริษัท Corbion มียอดขายรวมทั้งปี 976.4 ล้านยูโร และมีพนักงาน 2,138 คน บริษัท Corbion อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Euronext Amsterdam ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.corbion.com
เกี่ยวกับไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลของโลก ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเชิงนวัตกรรมคุณภาพสูงที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพให้แก่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี
ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือเป็นผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลก ทั้งยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน โดยมียอดขายต่อปีกว่า 1.263 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกกว่า 44,000 คนซึ่งล้วนมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเชิงนวัตกรรมที่ยั่งยืน
แบรนด์ลูกของไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ล้วนเป็นผู้นำตลาดระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar, Ruegen Fisch และแบรนด์ชั้นนำในไทย ได้แก่ SEALECT, Fisho, Qfresh, Monori, Bellotta และ Marvo
ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนจึงมีความภาคภูมิใจในการเป็นสมาชิกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็ก และสมาชิกผู้ก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (ISSF) โดยเมื่อปี 2558 ไทยยูเนี่ยนได้เปิดตัวกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนอย่าง SeaChange(R) ซึ่งดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ seachangesustainability.org การดำเนินการเพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของบริษัทไทยยูเนี่ยน ทำให้บริษัทได้รับการจัดอันดับในหมวดอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารในดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Index เป็นอันดับหนึ่งในปี 2561 และ 2562 โดยมีค่าเปอร์เซ็นต์ไทล์ด้านความยั่งยืนที่ 100 บริษัทได้รับการเสนอชื่อในการจัดอันดับดังกล่าวถึงหกปีซ้อน นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อใน FTSE4Good Emerging Index ติดต่อกันเป็นปีที่สี่ในปี 2562
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
สื่อมวลชนติดต่อ:
[email protected]
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/830614/Corbion_Logo.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1310091/Thai_Union_Logo.jpg