แคมเปญ “ไหว้ ไทยแลนด์” (Wai ThailandTM) นี้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทยและแสดงความสวยงามของวัฒนธรรมไทยให้ประจักษ์สู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก โดย Hotels.com ได้เชิญชวนให้คนไทยถ่ายภาพของตนเองในท่าไหว้ และโพสต์ลงบนแอพลิเคชั่น Facebook ที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ
“การไหว้ นับว่าเป็นวัฒนธรรมประจำชาติของคนไทย เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่ใช้สำหรับการทักทายแล้ว ยังสามารถใช้ในการขอโทษ ขอบคุณ และแสดงความเคารพนับถือ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของคนไทย Hotels.com จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้ร่วมกันแชร์ภาพไหว้ อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้นักท่องเที่ยวได้เห็น เพื่อแสดงออกถึงการต้อนรับและเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ประเทศไทย" นายอับฮิราม ชาวด์ดรี (Abhiram Chowdhry) รองประธานและกรรมการผู้จัดการ Hotels.com กล่าว
นอกจากกิจกรรมนี้จะเป็นการแสดงถึงวัฒนธรรม ผู้คน และสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายของประเทศไทยออกสู่สายตาชาวโลกแล้ว Hotels.com ยังวางแผนที่จะนำภาพถ่ายที่ได้จากกิจกรรม “ไหว้ ไทยแลนด์” ซึ่งส่งมาจากทั่วโลก มารวมเป็นภาพโมเสค “ไหว้” ขนาดใหญ่
“คนไทยทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของกิจกรรมที่เรากำลังจะจัดขึ้นได้ง่ายๆ เพียงแชร์รูปไหว้ของตนเอง เพียงเท่านี้คุณก็จะมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยน่าอัศจรรย์เพียงใด และนอกเหนือจากประเทศไทย Hotels.com ยังได้จัดทำแคมเปญ “ไหว้ ไทยแลนด์” ในต่างประเทศ เพื่อเป็นการแสดงให้คนไทยเห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นต่างยินดีและขอบคุณคนไทยทุกๆ คนสำหรับรอยยิ้มและการต้อนรับดูแลที่คนไทยมีต่อนักท่องเที่ยวเสมอมา” นายอับฮิราม กล่าวเสริม
แคมเปญ “ไหว้ ไทยแลนด์” เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2558 เป็นต้นไปในประเทศไทย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และอินเดีย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถอัพโหลดรูป “ไหว้” ของตนเองได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 ผ่านทางเพจ Facebook ของ Hotels.com ที่: https://www.facebook.com/Hotels.comTH
“ความสวยงามของประเทศและเอกลักษณ์ความเป็นไทยคือสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทย แคมเปญ ‘ไหว้ ไทยแลนด์’ จะช่วยทำให้ชาวต่างชาติเห็นว่าประเทศไทยยังคงเป็นสถานที่ที่น่าหลงใหล และเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวชมและสร้างความประทับใจจากการไหว้ ซึ่งแสดงออกถึงความเป็นไทยที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก”, นาย ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร, ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าว