จากผลการสำรวจ "Trip Barometer Connected Travelers" ที่จัดทำขึ้น โดย Tripadvisor ระบุว่า ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีแนวโน้มใช้สมาร์ทโฟนในการวางแผนและจองทริปการท่องเที่ยวที่เรียกว่า Connected Travelers ถึงร้อยละ 65 โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการจองกิจกรรมการท่องเที่ยวมากที่สุดยังคงเป็นคอมพิวเตอร์ PC ร้อยละ 30 รองลงมา ได้แก่ แล็บท็อป ร้อยละ 28 มือถือ ร้อยละ 26 และแท็บเล็ตเพียง ร้อยละ 11 ซึ่งแตกต่างจากค่าเฉลี่ยของประเทศต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวมีการจองผ่านแล็บท็อปมากที่สุดในขณะที่มือถือมีเพียงร้อยละ 12 เท่านั้น ผลที่ได้นี้เท่ากับเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของมือถือในการเป็นอุปกรณ์ดิจิทัลสำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงมีแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถดิจิทัล เพื่อการท่องเที่ยว (Digital Tourism) ให้กับระบบเศรษฐกิจไทย โดยการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นการสร้างรากฐานให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ อย่างมีดุลยภาพและยั่งยืนที่จะนำพาระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเข้าสู่กระแสเศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยวครบวงจร ผ่านโครงการ Tourism Gateway สื่อดิจิทัลที่รองรับวงจรประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวประกอบด้วย Smart Trip Planner App เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีข้อมูลในการตัดสินใจและวางแผนในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยระบบให้บริการข้อมูลที่มีคุณภาพรวดเร็ว สะดวก ง่ายดาย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถปรับให้ตอบสนองตามความต้องการระดับบุคคล (Personalized marketing) และ Smart travel App เป็นการบูรณาการและต่อยอด Application ข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยใช้การประมวลผลข้อมูล (Analytics) ที่จำเป็นในระหว่างการเดินทาง เพื่อยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงบริการที่ดี มีความประทับใจและรู้สึกปลอดภัยตลอดเวลาที่ท่องเที่ยวในประเทศรวมทั้งการยกระดับ การบริหารจัดการภาคการท่องเที่ยวไทยผ่านโครงการ Tourism Intelligence Center (TIC) ซึ่งเป็นระบบบูรณาการข้อมูลต่างๆ ในภาคการท่องเที่ยวสำหรับใช้ในการตัดสินใจของผู้บริหาร และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อกำหนดและขับเคลื่อนนโยบายตลอดจนช่วยในการสั่งการ แก้ไขปัญหาทางการท่องเที่ยวที่ทันต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ