รศ.ดร.คมสัน มาลีสี (Assoc.Prof.Dr.Komsan Maleesee) คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า นโยบายและความร่วมมือประชารัฐในการพัฒนาไปสู่ยุค Industry 4.0 ต้องมีการส่งเสริมการศึกษาเพื่อการนำองค์ความรู้ไปต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิม (First S-Curve) และเติมต่อ 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-Curve) สู่เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 จากสถิติของซิลิคอนแวลลีย์ (Silicon Valley) ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา จะมีสตาร์ทอัพเกิดขึ้นปีละ 8,000 -10,000 ราย สตาร์ทอัพเกิดจากการพบเจอปัญหาในชีวิตประจำวัน หรือในธุรกิจอุตสาหกรรม มุ่งจะแก้ไขปัญหานั้นให้กับคนหมู่มาก หลายสตาร์ทอัพอาจเติบโตก้าวไปได้ไกลถึงในระดับโลก โดยสตาร์ทอัพต้องกล้าคิดกล้าลงทุนและลงมือทำ จากสถิติ 95 เปอร์เซ็นต์ของสตาร์ทอัพทั่วโลกล้มเหลว และมีสตาร์ทอัพ 5% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น การเปิดห้องสมาร์ทแล็บอัจฉริยะ (Delta Industrial Automation Lab) ณ คณะวิศวลาดกระบัง ได้รับความร่วมมือสนับสนุนจาก บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำอิเล็กทรอนิกส์และนวัตกรรมไอซีทีของโลก จะเป็นแหล่งบ่มเพาะ สตาร์ทอัพไทย ในอนาคตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆที่แก้ปัญหาให้โลกดีขึ้น ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข่งขันบนเวทีอาเซียนและโลกได้ สู่เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0
มร.เซีย เชนเยน (Mr.Hsieh Shen-yen) ประธานบริหาร บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เรากำลังก้าวไปสู่ภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ในการพัฒนาบุคลากรเพื่อความพร้อมเตรียมพร้อมของกำลังคนให้มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอใน ยุค Industry 4.0 นั้น จำเป็นที่จะต้องมีการเรียนรู้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Industrial Automation) อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง การเปิดห้องสมาร์ทแล็บอัจฉริยะ (Delta Industrial Automation Lab) เพื่อเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและทักษะต่าง ๆ จากรุ่นสู่รุ่น ช่วยกระตุ้นให้การเรียนการสอนแข็งแกร่งทั้งวิชาการและการลงมือปฏิบัติจริง สร้างแรงบันดาลใจให้วิเคราะห์ คิดค้น สร้างสรรค์ความคิดในการแก้ปัญหา และก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลง และก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนหมู่มาก รวมทั้งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการใหม่ได้ต่อไป บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ขอส่งมอบห้องสมาร์ทแล็บอัจฉริยะ (Delta Industrial Automation Lab)
ปัจจัยที่จะทำให้สตาร์ทอัพประสบผลสำเร็จในยุค 4.0 ได้แก่ 1.Disrupt สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลก 2.Scalable ขยายตัวได้รวดเร็ว เพราะเทคโนโลยีสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว 3.ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหา 4.ประสบการณ์และไอเดียที่แปลกใหม่ 5.มีแผนธุรกิจอย่างชัดเจน มีจุดขาย 6.มีทีมงานและเครือข่ายที่แข็งแกร่ง 7.แหล่งเงินทุน ปัจจุบันแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจ Start Up ในเมืองไทยมีให้เลือกหลากหลาย กองทุนต่าง ๆ 8.จังหวะเวลาเหมาะเจาะ ตัวอย่างเช่น Uber ธุรกิจให้บริการรับส่งคน ก็ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำเช่นกัน คนกำลังต้องการรายได้พิเศษ และตอบสนองการใช้ชีวิตที่เร่งรีบของคนเมือง
คุณเกษมสันต์ เครือธร (Mr.Kasemson Kreuatorn) ผู้จัดการภาคพื้นอาวุโสฝ่ายอินดรัสเทรียลออโตเมชั่น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ หรือ Industrial Automation นับเป็นเทรนด์ของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสู่ความทันสมัย คุณภาพ ประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน ซึ่งระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และดิจิตอล IoT สามารถเข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์ และให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 1.เครื่องจักรอัตโนมัติ (Automation Machine) 2.โรงงานอัตโนมัติ (Factory Automation) และ 3.กระบวนการผลิตอัตโนมัติ (Process Automation) โดยทุกหน่วยของระบบการผลิต ติดตั้งระบบเครือข่ายและฝังเซนเซอร์เพื่อให้สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันแบบ realtime เครื่องจักร หุ่นยนต์ ระบบ และโรงงาน เชื่อมต่อทางเครือข่ายในรูปแบบ Internet of Things (IoT) ช่วยให้สามารถแสดงผล ควบคุม บริหารจัดการกระบวนการผลิตทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีของเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Industrial Automation) สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพและผลผลิต, ช่วยลดต้นทุน, รองรับงานหนัก งานทำซ้ำ งานเสี่ยงอันตรายแทนมนุษย์ หรืองานที่ต้องการความแม่นยำสูง ลดข้อผิดพลาด, ช่วยประหยัดพลังงาน เสริมศักยภาพและยกระดับอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่ตลาดต้องการ, สามารถผลิตในจำนวนน้อยตามความแตกต่างของผู้บริโภคแต่ละได้ แต่ยังรักษาประสิทธิภาพการผลิตที่สูงในระดับเดียวกับการผลิตแบบคราวละมากๆ
ในสมาร์ทแล็บอัจฉริยะของคณะวิศวลาดกระบังนี้มีชุดอุปกรณ์การเรียนการสอนระบบออโตเมชั่น 4 อย่าง คือ 1.ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับผ่านอีเธอร์เน็ตจำนวน 3 ชุด (Operator Panel หรือ HMI) 2.ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับผ่านแคนบัสจำนวน 3 ชุด (PLC) 3.ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์เซอร์โวผ่านแคนบัสจำนวน 3 ชุด (VFD/Servo) 4. ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์เซอร์โวผ่านอีเธอร์เน็ตจำนวน 3 ชุด (Motor) สามารถนำอุปกรณ์ทั้งหมดมาเชื่อมโยงข้อมูลของภาพรวมระบบออโตเมชั่นที่สมบูรณ์
ผศ.ดร.ศรวัฒน์ ชิวปรีชา (Asst.Prof.Dr.Sorawat Chivapreecha) ประธานหลักสูตรวิศวกรรมโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นเมืองเกษตรมาก่อนแต่เราไม่ค่อยมีนวัตกรรมด้านนี้จึงเป็นที่มาของ ฟาร์มอัจฉริยะ หรือ Smart Farm โดยนำ Industrial Automation มาเพิ่มประสิทธิภาพ ช่วยให้การเกษตรซึ่งเป็นความมั่นคงของประเทศและภูมิภาคไม่สูญหายไป โดยลดการใช้แรงงานคน ลดงานหนักให้เป็นความสะดวกสบาย ยกระดับความสามารถของเกษตรกรรายย่อย ทำให้การทำงานในฟาร์มยุคใหม่ง่ายขึ้น Smart Farm เป็นโรงเรือนเพาะปลูกแบบปิดที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ตามที่ตั้งไว้ได้ เหมาะสำหรับการปลูกพืชผักที่ต้องควบคุมสภาพอากาศอยู่ตลอดเวลา เช่น พืชผักไฮโดรโปนิกส์ แตงเมล่อน ทำให้พืชผลเจริญเติบโตและผลผลิตดี โครงสร้างประกอบด้วย ส่วนที่ 1 ฮาร์ดแวร์ คือ เครื่องตรวจรับค่าพารามิเตอร์ (Sensing Node) ติดตั้งในบริเวณโรงเรือน เพื่อวัดค่าต่างๆ เช่น อุณหภูมิในอากาศ, ความชื้นในดิน ส่วนที่ 2 โมบายล์แอพพลิเคชั่น ออกแบบให้มีความสะดวกต่อการใช้งานทุกวัย สามารถควบคุมการทำงานอุปกรณ์ต่างๆในโรงเรือนได้ โดยจะมีการรายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรือน เพื่อการตัดสินใจ ส่วนที่ 3 คอนโทรลเลอร์ ควบคุมหรือปรับระบบต่างๆในโรงเรือนทั้งระบบการควบคุมอัตโนมัติ หรือแบบ manual ได้จากระยะไกลทุกที่ทุกเวลา และยังปรับใช้กับการปศุสัตว์ก็ได้เช่นกัน